ส่วนกรณีที่บริษัท เบสทรินกรุ๊ป จำกัด ได้ยื่นหนังสือกรณีถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ว่า การประมูลครั้งนี้ไม่โปร่งใส โดยจากที่ขสมก.เปิดประมูลมีบริษัทสนใจซื้อซองไปกว่า 10 ราย ปรากฏว่าเอกสารของทุกบริษัทไม่ผ่านเงื่อนไข ขสมก. เปิดประมูลครั้งที่ 2 เบสทรินกรุ๊ป ได้ส่งเอกสารร่วมระมูลปรากฎว่าไม่ผ่านอีก จนมีการประมูลเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งในครั้งนี้มี บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียล มาร่วมยื่นซองด้วย ซึ่ง บมจ. ช.ทวีฯ ไม่เคยยื่นใน 2 ครั้งแรก โดยผ่านคุณสมบัติมาร่วมเสนอราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Auction กับเบสทรินกรุ๊ป ซึ่งปรากฏว่า เบสทรินกรุ๊ป เสนอราคาสูงกว่า บมจ. ช.ทวีฯ เพียงไม่กี่ล้านบาท
โดยต้องการให้มีการตรวจสอบการประมูลครั้งนี้ โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองราคาค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 นั้น ขสมก.ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เสนอราคาอีกรายเข้าร่วมเจรจาต่อรอง ทำให้การจัดซื้อไม่โปร่งใส ซึ่งอาจจะทำให้ราคาจัดซื้อครั้งนี้ไม่ใช่ราคาที่ต่ำสุด อีกทั้ง ผู้ชนะได้เสนอว่าจะดำเนินการประกอบรถโดยสารในประเทศ แต่ได้รับข้อมูลยืนยันว่าเป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปทั้งคันจากต่างประเทศ จากข้อมูลทั้งหมดอาจเป็นเหตุให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าได้
นอกจากนี้ ล่าสุดทราบว่ามีคณะกรรมการที่แต่งตั้งจากคณะกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชันแห่งชาติ (คตช.) จำนวน 2 ท่าน เป็นนักวิชาการด้านขนส่ง เข้ามาสังเกตการณ์ในการประมูลโครงการนี้ลาออกไปแล้ว เนื่องจากทนเห็นสภาพการประมูลที่ไม่โปร่งใสไม่ไหว และไม่อยากมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วย
น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองประธานคณะกรรมการบอร์ด คนที่ 1 เป็นผู้ชี้แจงโดย ยืนยันว่า ขสมก.ดำเนินการประกวดราคาตามระเบียบวิธีการของกรมบัญชีกลางทุกขั้นตอน ซึ่งก่อนที่จะมีการเปิดประกวดราคา กรมบัญชีการได้แจ้งขั้นตอน ซึ่งฝ่ายบริหารก็ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง สำหรับกรณีการเปิดซองข้อเสนอราคาค่าซ่อมบำรุงเนื่องจากใช้การประกวดวิธีพิเศษ ดังนั้นจะต้องเปิดซองข้อเสนอค่าซ่อมบำรุงพร้อมกันทั้ง 2 ราย ซึ่งเมื่อเปิดแล้วก็ปรากฎว่า บมจ.ช.ทวีฯ เสนอราคาต่ำกว่า เบสทรินกรุ๊ป ทำให้ บมจ.ช .ทวีฯ มีราคารวมทั้งตัวรถและค่าซ่อมบำรุงต่ำกว่า จึงชนะการประกวดราคา
ส่วนกรณีการลาออกของผู้สังเกตุการณ์นั้น เนื่องจากขบวนการร่างทีโออาร์เสร็จสิ้นหมดภาระกิจก็ต้องลาออกตามขั้นตอน ยืนยันว่าขบวนการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน จะสามารถเดินต่อไปได้ตามแผนที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม ราคาค่ารถเมล์ NGV ที่ บมจ. ช.ทวี เสนอต่อคันที่ 3.55 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณคันละ 1 แสนบาท ส่วนค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 เสนอที่ 1,850 บาท/คัน/วัน ขณะที่ราคากลางกำหนดไว้ที่ 1,636 บาท/คัน/วัน ซึ่งได้ต่อรองลงมาเท่ากับราคากลาง คิดเป็นค่าซ่อมบำรุงระยะ 5 ปีรวมประมาณ 1,460 ล้านบาท