ขสมก. คาดเซ็นสัญญาจัดซื้อรถเมล์ NGV 489 คันกับ JVCC ในสัปดาห์หน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 12, 2015 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด ขสมก.วาระพิเศษว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติวงเงินจัดซื้อรถโดยสารใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง(NGV) จำนวน 489 คัน วงเงิน 1,784.85 ล้านบาท โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถลงนามในสัญญากับกลุ่มบริษัทร่วมค้า JVCC (มี บมจ. ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) ถือหุ้น 50% และบริษัท ช.ทวีขอนแก่น จำกัด บริษัทย่อยของ CHO ถือหุ้น 50%) ซึ่งเป็นผู้ชนะในการเสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ได้ หลังจากลงนามสัญญา บมจ. ช.ทวีฯ จะต้องส่งมอบรถให้ครบภายใน 90 วัน โดยล็อตแรกจำนวน 50 คัน จะส่งมอบภายในเดือนก.ค.58 และจะทยอยส่งมอบรถครบจำนวน 489 คัน ได้ทันก่อน 90 วัน

ส่วนกรณีที่บริษัท เบสทรินกรุ๊ป จำกัด ได้ยื่นหนังสือกรณีถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ว่า การประมูลครั้งนี้ไม่โปร่งใส โดยจากที่ขสมก.เปิดประมูลมีบริษัทสนใจซื้อซองไปกว่า 10 ราย ปรากฏว่าเอกสารของทุกบริษัทไม่ผ่านเงื่อนไข ขสมก. เปิดประมูลครั้งที่ 2 เบสทรินกรุ๊ป ได้ส่งเอกสารร่วมระมูลปรากฎว่าไม่ผ่านอีก จนมีการประมูลเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งในครั้งนี้มี บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียล มาร่วมยื่นซองด้วย ซึ่ง บมจ. ช.ทวีฯ ไม่เคยยื่นใน 2 ครั้งแรก โดยผ่านคุณสมบัติมาร่วมเสนอราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Auction กับเบสทรินกรุ๊ป ซึ่งปรากฏว่า เบสทรินกรุ๊ป เสนอราคาสูงกว่า บมจ. ช.ทวีฯ เพียงไม่กี่ล้านบาท

โดยต้องการให้มีการตรวจสอบการประมูลครั้งนี้ โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองราคาค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 นั้น ขสมก.ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้เสนอราคาอีกรายเข้าร่วมเจรจาต่อรอง ทำให้การจัดซื้อไม่โปร่งใส ซึ่งอาจจะทำให้ราคาจัดซื้อครั้งนี้ไม่ใช่ราคาที่ต่ำสุด อีกทั้ง ผู้ชนะได้เสนอว่าจะดำเนินการประกอบรถโดยสารในประเทศ แต่ได้รับข้อมูลยืนยันว่าเป็นการนำเข้ารถสำเร็จรูปทั้งคันจากต่างประเทศ จากข้อมูลทั้งหมดอาจเป็นเหตุให้เกิดการหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าได้

นอกจากนี้ ล่าสุดทราบว่ามีคณะกรรมการที่แต่งตั้งจากคณะกรรมการต่อต้านการคอร์รัปชันแห่งชาติ (คตช.) จำนวน 2 ท่าน เป็นนักวิชาการด้านขนส่ง เข้ามาสังเกตการณ์ในการประมูลโครงการนี้ลาออกไปแล้ว เนื่องจากทนเห็นสภาพการประมูลที่ไม่โปร่งใสไม่ไหว และไม่อยากมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วย

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ รองประธานคณะกรรมการบอร์ด คนที่ 1 เป็นผู้ชี้แจงโดย ยืนยันว่า ขสมก.ดำเนินการประกวดราคาตามระเบียบวิธีการของกรมบัญชีกลางทุกขั้นตอน ซึ่งก่อนที่จะมีการเปิดประกวดราคา กรมบัญชีการได้แจ้งขั้นตอน ซึ่งฝ่ายบริหารก็ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง สำหรับกรณีการเปิดซองข้อเสนอราคาค่าซ่อมบำรุงเนื่องจากใช้การประกวดวิธีพิเศษ ดังนั้นจะต้องเปิดซองข้อเสนอค่าซ่อมบำรุงพร้อมกันทั้ง 2 ราย ซึ่งเมื่อเปิดแล้วก็ปรากฎว่า บมจ.ช.ทวีฯ เสนอราคาต่ำกว่า เบสทรินกรุ๊ป ทำให้ บมจ.ช .ทวีฯ มีราคารวมทั้งตัวรถและค่าซ่อมบำรุงต่ำกว่า จึงชนะการประกวดราคา

ส่วนกรณีการลาออกของผู้สังเกตุการณ์นั้น เนื่องจากขบวนการร่างทีโออาร์เสร็จสิ้นหมดภาระกิจก็ต้องลาออกตามขั้นตอน ยืนยันว่าขบวนการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน จะสามารถเดินต่อไปได้ตามแผนที่กำหนด

อย่างไรก็ตาม ราคาค่ารถเมล์ NGV ที่ บมจ. ช.ทวี เสนอต่อคันที่ 3.55 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางประมาณคันละ 1 แสนบาท ส่วนค่าซ่อมบำรุงปีที่ 6-10 เสนอที่ 1,850 บาท/คัน/วัน ขณะที่ราคากลางกำหนดไว้ที่ 1,636 บาท/คัน/วัน ซึ่งได้ต่อรองลงมาเท่ากับราคากลาง คิดเป็นค่าซ่อมบำรุงระยะ 5 ปีรวมประมาณ 1,460 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ