MILL เล็งทุ่ม 700 ลบ.ถือหุ้นโซลาร์ฟาร์ม,เล็งหาประโยชน์ที่ดินระยอง 480 ไร่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 15, 2015 13:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.มิลล์คอน สตีล(MILL)กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าถือหุ้นในโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศ ขนาดกำลังผลิต 22.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 700 ล้านบาทเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 30-40% แหล่งเงินทุนจะมาจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP)ครั้งล่าสุด
"การเข้าลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์ม เราไม่ได้หวังเพื่อให้เข้ามาเป็นธุรกิจหลัก แต่เป็นการลงทุนเพื่อเป็นการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าทางอ้อมมากกว่า ซึ่งโครงการดังกล่าวปัจจุบันได้เริ่มผลิตไฟฟ้า และเริ่มมีรายได้เข้ามาแน่นอนแล้ว เราก็คงจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง"นายสิทธิชัย กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการจัดการกับที่ดินเปล่าในมือที่มีอยู่ 480 ไร่ในจังหวัดระยองเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคาดว่าจะสามารถสรุปรูปแบบการจัดการได้ภายในปีนี้ จากทั้งทางเลือกในการนำมาพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ การร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อตั้งโรงงานใหม่ หรืออาจขายที่ดินเปล่าออกไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าที่ดินด้วย

นายสิทธิชัย กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด 594.87 ล้านบาททั้งหมดในปีนี้ โดยจะใช้กำไรจากผลการดำเนินงาน และอีกส่วนหนึ่งจะมาจากกำไรจากการจำหน่ายหุ้นของบริษัท มิลล์คอนสเปเชี่ยลสตีล จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยให้กับบริษัท โกเบ สตีล จำกัด ผู้ผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ธุรกิจเป็นผู้หลิตเหล็กและเหล็กลวดเกรดพิเศษ เบื้องต้นคาดจะเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 50%

ขณะที่บริษัทมั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท และผลประกอบการจะพลิกกลับมามีกำไรได้แน่นอน จากปีก่อนที่มีรายได้ 10,489 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 129.70 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 1/58 บริษัทเริ่มมีกำไรแล้ว และแนวโน้มไตรมาส 2/58 คาดว่ายังมีกำไรแม้ว่า รายได้และกำไรสุทธิอาจจะต่ำกว่าไตรมาส 1/58 ที่มีรายได้ 2,944 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 129.70 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาส 2 มีวันหยุดค่อนข้างมาก ประกอบกับเป็นช่วงที่บริษัทฯ สามารถจำหน่ายเหล็กได้น้อย

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นฤดูกาลขายเหล็ก ขณะเดียวกัน ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอส่ง (Backlog)อยู่ในมือราว 1 แสนตัน ซึ่งจะรับรู้รายได้เข้ามาในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้

"เรามั่นใจว่าปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรแน่นอน เพราะไตรมาส 1/58 ที่ผ่านมาบริษัทฯมีกำไรแล้ว และปีนี้เราจะเอาผลกำไรที่ได้จากผลการดำเนินงานมาล้างขาดทุนสะสมที่มีทั้งหมด ซึ่งแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก หลังจากเป็นสัญญาณการลงทุนที่เริ่มดีขึ้นทั้งจากภาครัฐฯและภาคเอกชน โดยเราก็มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาในมือล่วงหน้าแล้วถึง 2-3 เดือน เราจึงค่อนข้างมั่นใจว่าปีนี้ผลประกอบการของเราจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ว่างไว้"นายสิทธิชัย กล่าว

ปัจจุบัน บริษัท มีสัดส่วนการขายเหล็กเส้นปกติอยู่กว่า 70% คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนจะลดลงเหลือ 30% ขณะที่สัดส่วนรายได้หลักจะมาจากเหล็กที่แปรรูปเป็นวัสดุก่อสร้าง และเหล็กที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อที่ในอนาคตจะทำให้บริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องราคาเหล็กผันผวน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ