บล.ทิสโก้ ขายกองทุนเปิด"เยอรมัน ทริกเกอร์ 8%"16-19 มิ.ย. คาดศก.ยุโรปแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 15, 2015 15:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า บริษัทจะเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#4" ซึ่งเป็นกองทริกเกอร์ฟันด์หุ้นเยอรมันกองที่ 4 มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายครั้งแรกในวันที่ 16-19 มิ.ย.นี้ โดยยังคงมีมุมมองว่าตลาดหุ้นเยอรมันจะให้ผลตอบแทนดีที่สุดในกลุ่มตลาดหุ้นยุโรป จากความโดดเด่นของพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

โดยกองทุนเปิด ทิสโก้ เยอรมัน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#4" จะเน้นลงทุนในบริษัทชั้นนำของโลกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเยอรมัน (DAX) อาทิ Bayer, Daimler, Siemens, Allianz, SAP, Deutsche Bank และ Volkswagen ผ่านกองทุนหลักคือ db x-trackers DAX UCITS ETF (DR) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน (DAX) โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายในระยะเวลา 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ นอกจากนี้กองทุนยังมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินยูโรที่มีแนวโน้มอ่อนค่า

"ช่วงที่หุ้นยุโรปปรับฐานในเดือนที่ผ่านมา เราจึงมองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน โดยมองว่าหุ้นเยอรมันจะให้ผลตอบแทนดีที่สุดในกลุ่มหุ้นยุโรปเนื่องจากมี Valuation ต่ำที่สุด โดยค่า forward P/E ของตลาดหุ้นเยอรมันอยู่ที่ราว 13 เท่า ขณะที่ค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นยุโรปอยู่ที่ 15.5 เท่า เราจึงมองว่าขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการออกกองทริกเกอร์หุ้นเยอรมันอีกครั้ง"นายธีรนาถ กล่าว

นายธีรนาถ กล่าวว่า ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยุโรปจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากการบริโภคที่เติบโตแข็งแกร่ง ราคาพลังงานที่ถูกลง รวมถึงค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเยอรมันยังคงเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป คาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) เยอรมันจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 2.0% ในปีนี้ และ 1.7% ในปี 59

"เรามองว่าเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง โดยได้ประโยชน์จากผลของ Public QE ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่า ในขณะที่การบริโภคฟื้นตัวได้ดี นอกจากนี้ นักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักต่อประเด็นการชำระหนี้ของกรีซมากนัก จึงส่งผลต่อตลาดหุ้นจำกัด"นายธีรนาถ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ