(เพิ่มเติม) แหล่งข่าวคาด HPT เคาะราคา IPO ไม่เกิน 1 บาท,ตั้งอันเดอร์ไรท์พรุ่งนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 15, 2015 17:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ คาดว่า บมจ.โฮม พอตเทอรี่ (HPT) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาประเภทไฟน์ไชน่า (Fine china) เพื่อใช้บนโต๊ะ อาหาร สำหรับการใช้งานในโรงแรมหรือร้านอาหาร จะกำหนดราคาซื้อขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น ที่ราคาไม่เกินหุ้นละ 1 บาท จากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)

ขณะที่นายนิรันดร์ เชาว์กิตติโสภณ ประธานกรรมการบริหาร HPT เปิดเผยว่า บริษัทจะเซ็นสัญญาแต่งตั้ง บล.ฟิลลิป)ประเทศไทย)ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้นในวันพรุ่งนี้ พร้อมมั่นใจว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาด ma) ได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้ โดยบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนจำนวน 80 ล้านบาทเพื่อขยายอาคารโรงงาน ซื้อเครื่องจักรเพิ่ม ปรับปรุงสายการผลิตเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 6 ล้านชิ้นต่อปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ 3 ล้านชิ้นต่อปี โดยตามแผนงานจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่องปีละ 20% จนครบ 6 ล้านชิ้นต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 63

นายนิรันดร์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโต 10% จากปี 57 ที่มีรายได้ราว 130 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 60 ล้านบาท และเชื่อว่าครึ่งหลังจะทำยอดได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลขายของธุรกิจ ขณะที่ครึ่งปีแรกโดยเฉพาะในเดือน เม.ย.มีวันหยุดค่อนข้างมาก ประกอบกับ ในช่วงไตรมาส 3/58 บริษัทจะเดินเครื่องเตาเผาที่ 3 ด้วย ซึ่งสัดส่วนรายได้หลักมาจากการส่งออก 99% ขายในประเทศ 1% โดยตลาดหลัก คือ สหรัฐ 54% ยุโรป 29% ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมทั้งตลาดอื่น 14%

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่าคำสั่งซื้อในมือ (backlog) ทั้งหมดราว 35 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30% และอัตรากำไรสุทธิ 11% ซึ่งภายหลังหลังจากการระดมทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตแล้ว คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นควบคู่กับการลดต้นทุนการผลิต ที่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงสายการผลิตเพื่อลดปริมาณของเสีย ด้วยการเพิ่มเครื่องจักร รวมทั้ง จัดสายการผลิตใหม่ เช่น แยกกลุ่มขึ้นรูป จาน และแก้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

"ที่ต้องระดมทุนเพิ่มกำลังการผลิตเพราะ 2 ปีมานี้ ออร์เดอร์เข้ามาแต่เราไม่สามารถผลิตได้ทัน ปัจจุบันเดินเครื่องเตาเผนอยู่ 2 เตา จากที่มี 3 เตา โดยไตรมาส 3/58 จะเดินเครื่องเตาที่ 3 เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 10% ซึ่งเตาเผาของเราเป็นเตาสเปคพิเศษ"นายนิรันดร์ กล่าว

สำหรับแผนการขยายตลาด นอกจากรักษาฐานตลาดเดิมพร้อมกับเพิ่มจำนวนลูกค้าแล้ว บริษัทยังจะหาตลาดใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม โดยแนวโน้มการเติบโตของตลาดเดิมยังไปได้ดี จากการเก็บตัวเลขพบว่าจะมีโรงแรมเพิ่มขึ้นทุกปี เช่น ในตลาดสหรัฐ มีโรงแรมที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3,500 แห่ง เอเชียแปซิฟิก 2,300 แห่ง ตะวันออกกลาง 600 แห่ง และยุโรป 800 แห่ง เป็นต้น ขณะที่บริษัทมีแผนจะขยายตลาดในอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง และอาเซียน (AEC) ปัจจุบันส่งออกไปในจำหน่ายใน AEC สัดส่วนราว 0.2% ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มเป็น 5%

"จุดเด่นของเราอยู่ที่ดีไซน์การออกแบบสินค้าตรงกับความต้องการใช้ของลูกค้า โดยแบ่งลูกค้าเป็น 3 กลุ่ม คือแบบบางน้ำหนักเบา เหมาะกับร้านอาหารในยุโรป แบบขอบหนาขึ้นกันกระแทก เหมาะกับร้านอาหารที่เป็นบุฟเฟต์ในอเมริกา ซึ่งตรงกับวัฒนธรรมของเขา และแบบจากยาว ถ้วยมีดีไซน์ ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์รองรับการใช้งานทุกประเภท ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ครบ ส่วนคู่แข่งในยุโรปหรืออเมริกามีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าเรา บริษัทจะได้เปรียบด้วยความที่มีขนาดเล็ก มีประสบการณ์ ผ่านวิกฤตการเงินโลกมาแล้ว และผ่านวิกฤตเซรามิก อย่างค่าเงินเราก็มีการทำ forward และมีการเจรจากับลูกค้า ขณะที่เราทำเซรามิกซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นต้องใช้ไม่ใช่สินค้าสวยงาม ความที่ใกล้ชิดกับลูกค้าถ้าค่าเงินเปลี่ยนแปลงมากกว่า 20% เราก็เจรจากับลูกค้าได้"นายนิรันดร์ กล่าว

ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ HPT คือ กลุ่มครอบครัวเชาว์กิตติโสภณ ถือหุ้น 367,680,000 หุ้นหรือคิดเป็น 91.920% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือ 71%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ