ส่วนผลประกอบการในปีนี้ KCM ยังคงเป้ารายได้เติบโต 20% จากปีก่อน และกำไรสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้นด้วย และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเข้าประมูลงานขายอุปกรณ์บ้านน็อคดาวน์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท หากได้งานนี้ก็คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/58
นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ KCM กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจากับพันธมิตรในประเทศไทยเพื่อขยายตลาดต่างประเทศ โดยมองไปยัง 4 ประเทศ ได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา และฟิลิปปินส์ คาดว่าในปีนี้จะเห็นการขยายตลาดไปยังฟิลิปปินส์เป็นที่แรกก่อน เพราะได้เจรจากับพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการจากไทยที่เข้าไปทำธุรกิจในฟิลิปปินส์ เพื่อนำสินค้าผนังและหลังคาไปจำหน่าย
ขณะทึ่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรรายอื่นอีกเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาดำเนินธุรกิจจำหน่ายโครงสร้างเหล็กและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ โดยสัดส่วนการถือหุ้น KCM น่าจะอยู่ที่ 50%
นายนิพนธ์ กล่าวว่า สำหรับธุรกิจให้เช่าคลังสินส้าสำเร็จรูปที่จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันพื้นที่เช่ามีผู้เช่าเต็มจำนวนแล้ว ซึ่งมีพื้นที่อยู่ 6,000 ตารางเมตร คิดเป็นราคาค่าเช่า 80 บาท/ตารางเมตร โดยเตรียมขยายคลังสินค้าให้เช่าไปยังจ.ขอนแก่น เพิ่มเติม จะมีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดรูปที่ดิน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในสิ้นปีนี้ และน่าจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในปี 59
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 690 ล้านบาท และมั่นใจกำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อนที่อยู่ที่ 7.07 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และมีการวางแผนบริหารจัดการต้นทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บริษัทมีการขยายสำนักงานขายเพิ่มเติม โดยสิ้นปีนี้จะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 30 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่ 22 แห่ง โดยในไตรมาส 2/58 เตรียมเปิดสาขาเล็ก 2 แห่ง และสาขาขนาดใหญ่อีก 3 แห่ง ขณะเดียวกันก็มีแผนขยายสำนักงานขายต่อเนื่องไปให้ครบจำนวน 92 แห่งภายในปี 60 เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าได้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานในโครงการบ้านน็อกดาวน์(Knock down home)หรือบ้านสำเร็จรูปในประเทศมูลค่าโครงการประมาณ 200 ล้านบาท โดยจะเข้าประมูลงานได้ในช่วง 1-2 เดือนนี้ คาดหวังจะได้งานราว 50% ของมูลค่างานทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากได้รับงานดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีการรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/58 นี้เลย
"งานโครงสร้างเหล็กปีนี้ลูกค้าบางรายชะลอไป แต่เราก็ยังมีการคุยกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าที่ชะลอไปกลับมาหาเรามากขึ้น ที่ผ่านมาเสนอราคาไปแล้วประมาณ 800-900 ล้านบาท ก็มีตอบรับมา 40-50 ล้านบาทแล้ว ซึ่งการเสนอราคาก็จะมีการทยอยตอบรับไปจนถึงปีหน้า ขณะที่เราก็มีสินค้าใหม่อย่างออฟฟิศตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาวางขาย สินค้าดังกล่าวลูกค้าให้ความสนใจอยู่แล้ว ก็น่าจะส่งผลต่อตัวรายได้ในระยะยาว"นายนิพนธ์ กล่าว