สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในครั้งนี้ทำขึ้นระหว่าง เมืองพัทยา กับบริษัท ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ จำกัด บริษัทในเครืออีสท์ วอเตอร์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเมืองต้นแบบที่มีการจัดการน้ำอย่างครบวงจร สามารถสร้างความมั่นคงของแหล่งน้ำ (Water Security) ลดการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ลดความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากวิกฤตการณ์ภัยแล้ง ลดปริมาณน้ำเสียที่ปล่อยลงสู่ทะเล ตลอดจนใช้ทรัพยากรน้ำอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด จากการนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ (Recycled Water) เพื่อที่จะยกระดับเมืองพัทยาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับพรีเมียมที่ดูแล ห่วงใย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการเมืองสวยใส ไร้มลพิษ (Green and Clean City) ในอนาคต
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแผนที่จะเตรียมยกระดับเมืองพัทยาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาสเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จึงต้องเตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำให้เพียงพอได้มาตรฐาน และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น จึงมีแนวคิดที่จะนำน้ำเสียจากภาคครัวเรือนมาบำบัดและนำกลับไปใช้ใหม่เป็นน้ำอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของระบบน้ำเมืองพัทยาให้รองรับความต้องการใช้น้ำในอนาคต โดยได้หารือร่วมกับ บริษัท อีสท์ วอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริหารจัดการน้ำโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออก ให้ช่วยวางระบบการจัดการน้ำแบบครบวงจร เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน ในขณะเดียวกันก็สามารถลดปัญหามลพิษทางน้ำที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามมาได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการวางแผนบริหารการจัดการระบบน้ำแบบครบวงจรของเมืองพัทยาร่วมกันเมื่อบ่ายวันนี้ โดยจะศึกษาการนำน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วกว่า 65,000 ลบ.ม.ต่อวัน ที่จะระบายลงสู่ทะเลมา Recycle และส่งต่อไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดชลบุรี และในอีก 5 ปีข้างหน้าจะสามารถบำบัดน้ำเสียและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน