(เพิ่มเติม) GUNKUL ตั้งเป้ากำลังผลิตโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น 200 MW ภายในปี 61-62

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 17, 2015 13:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL) ตั้งเป้าหมายขยายโครงการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นให้มีกำลังผลิตเพิ่มเป็น 200 เมกะวัตต์ภายในปี 61-62 โดยจะเดินหน้าขอใบอนุญาตให้ครบทั้งหมดภายในปีนี้ ขณะที่มองแนวโน้มธุรกิจของบริษัทในครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศตามความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับในไตรมาส 2-3/58 จะรู้ผลประมูลงานขายอุปกรณ์ในโครงการโซลาร์ฟาร์มล้างท่อคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมงานขายและซ่อมบำรุงให้ภาครัฐและเอกชน ทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 50% จากปีก่อน

นายพงษ์สกร ดำเนิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและวางแผน GUNKUL กล่าวถึงโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม)ในประเทศญี่ปุ่นว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตครบ 200 เมกะวัตต์ในช่วงปี 61-62 โดยจะเร่งทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้ครบทั้งหมดในปีนี้ จากปัจจุบันที่อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการอยู่ 2 เฟส โดยเฟสแรกมีกำลังการผลิต 38 เมกะวัตต์ และเฟสที่ 2 กำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 60

ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้า Gas Engine ในเมียนมาร์ เฟสที่ 2 กำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างก่อสร้าง จะสามารถเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี 58 นี้ ส่วนเฟสที่ 3 อยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า จากนั้นจะลงมือก่อสร้างได้ นอกจากนี้บริษัทยังมองโอกาสการเข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะในไทยด้วย ซึ่งจะศึกษาและรอความชัดเจนการลงทุนจากภาครัฐออกมาก่อน อย่างไรก็ตาม หากเป็นโครงการใหญ่บริษัทอาจจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางระบบไฟฟ้าของโครงการนั้นๆ ด้วย

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจบริษัทในช่วงครึงหลังปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นทั้งในประเทศและต่างประเทศตามความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในไตรมาส 2-3/58 จะรู้ผลประมูลงานขายอุปกรณ์ในโครงการโซลาร์ฟาร์มค้างท่อคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ยังไม่รวมงานขายและซ่อมบำรุงให้ภาครัฐและเอกชนที่มีอีกหลายโครงการกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น จึงมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 50% หรือ 5,200 ล้านบาทจากปี 57

ในด้านของกำไรสุทธิปีนี้ก็คาดว่าจะดีกว่า 545.27 ล้านบาทในปีก่อน แม้ในช่วงไตรมาส 1/58 ทั้งรายได้และกำไรจะต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนค่อนข้างมาก แต่จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/58 โดยคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2/57 ที่มีกำไรสุทธิ 104.94 ล้านบาท และมีรายได้ 554.9 ล้านบาท และครึ่งปีหลังปีผลประกอบการจะดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ราว 1,000 ล้านบาท จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ราว 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทยอยรับรู้ฯในปีหน้า

ขณะเดียวกันยังมีโครงการโซล่าร์ฟาร์มล้างท่อที่มีอยู่ถึง 1,000 เมกะวัตต์ที่จะต้องทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบทั้งหมดในปีนี้ บริษัทก็คาดหวังจะได้งานรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการคิดเป็นกำลังการผลิตรวมราว 200 เมกะวัตต์มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% นอกจากนี้บริษัทยังจะเจรจาเพื่อเข้าไปถือหุ้นในโครงการดังกล่าวราว 80 เมกะวัตต์ด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน ส.ค.นี้

ตลอดจนในปีนี้บริษัทยังมุ่งเน้นธุรกิจผลิตและจัดหาอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท คือ หลอดไฟ LED จะเน้นขายในส่วนงานโครงการและหน่วยงานราชการ และมีแนวโน้มว่าธุรกิจหลอดประหยัดพลังงานน่าจะเติบโตและมีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น ขณะที่เป้าหมายรายได้ในปีนี้ยังไม่นับรวมโอกาสที่บริษัทจะขยายธุรกิจไปทำแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อหนุนรายได้ในส่วนธุรกิจเทรดดิ้ง และโครงการโซล่าร์สหกรณ์และส่วนราชการ รวมถึงโอกาสลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3/2558 นี้

"ปีนี้เรามั่นใจว่ารายได้ และกำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อน แม้ในช่วงครึ่งปีแรกจะมีผลประกอบการออกมาไม่ดีนัก เนื่องจากงานต่างๆได้มีการชะลอไป ทั้งในส่วนของคำสั่งซื้อสินค้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่เชื่อว่าจะเริ่มกลับมามีคำสั่งซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง และโซล่าร์ฟาร์มค้างท่อที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง และต้องมีการจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในปีนี้ทันที จะทำให้รายได้และกำไรในครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จะมาจาก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 40% ธุรกิจจำหน่ายไฟ 20% และธุรกิจซื้อมาขายไป 20%"นายพงษ์สกร กล่าว

นายพงษ์สกร กล่าวว่า บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ราว 10,000 ล้านบาท เพื่อที่จะใช้ในการลงทุนโครงการโซล่าร์ฟาร์มค้างท่อ และโครงการพลังงานลมเฟสที่ 1 กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ จะเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน พ.ค.59 สำหรับโครงการพลังงานลมเฟสที่ 2 กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างหาผู้รับเหมา คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและจ่ายไฟได้ในเดือน ธ.ค.59 และเฟสที่ 3 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ จะเริ่มจ่ายไฟได้ในเดือน มี.ค.60 โดยหาก 3 โครงการนี้สามารถรับรู้รายได้เต็มปีจะสร้างกำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 1,500 ล้านบาท/ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ