นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายกองทุนเปิดทหารไทย German Equity Trigger 8 ซึ่งจะนำเงินลงทุนที่ได้ไม่น้อยกว่า 80% ไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว (กองทุนหลัก) คือ กองทุน db x-trackers DAX UCITS ETF (DR) โดยกองทุนหลักนี้มีนโยบายมุ่งลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของดัชนี DAX ที่ประกอบด้วยหุ้นบริษัทเยอรมันขนาดใหญ่ มูลค่าซื้อขายสูงจำนวน 30 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต
โดยบริษัทฯจะทำการป้องกันความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ซึ่งตามปกติจะทำการป้องกันความเสี่ยงไว้ไม่ต่ำกว่า 90%
สำหรับกองทุนหุ้นทริกเกอร์เยอรมันน้องใหม่นี้มีเงื่อนไขการเลิกโครงการเมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.8 บาท/หน่วย โดยเมื่อถึงครึ่งทางหรือเมื่อกองทุนเติบโตจนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.4 บาท/หน่วย จะมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยกองทุนมีมูลค่าเงินทุนโครงการ 3,000 ล้านบาท กำหนดเปิดเสนอขายเป็นครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย.58
นายสมจินต์ กล่าวว่า ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุนของบลจ.ทหารไทยมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นเยอรมันทั้งในด้านมูลค่าการลงทุนที่เหมาะสมเชิงเปรียบเทียบ (Valuation) อาทิ ระดับราคาต่อความสามารถในการทำกำไร (Trailing P/E) ที่ต่ำกว่า อัตราการจ่ายปันผลที่สูงกว่าและส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนของหุ้นเหนือพันธบัตรที่อยู่ในอัตราที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับประเทศหลักๆในโลก เช่น สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น เป็นต้น และเมื่อมองทางด้านปัจจัยเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรปโดยรวมนั้น
การออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ของธนาคารกลางแห่งยุโรปส่งผลให้เงินยูโรอ่อนค่าและระดับอัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วยูโรโซน ส่งผลดีต่อเยอรมันในฐานะประเทศที่เน้นการส่งออกและเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อตลาดหุ้นเยอรมัน ประกอบกับการมีปัจจัยโครงสร้างพื้นฐานทั้งเศรษฐกิจ สังคม และฐานะการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุน "ครั้งนี้เราพร้อมนำเสนอกองทุนดัชนีหุ้นใหญ่เยอรมันซึ่งเป็นช่องทางการลงทุนในหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศเยอรมันที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เมื่อคิดถึงเยอรมันเราจะรู้สึกได้ถึงความโดดเด่นทางด้านนวัตกรรม เช่น ยานยนต์แบรนด์ไฮเอนท์ที่ดังระดับโลก เช่น BENZ BMW Audi Volkswagen การเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านวิศกรรมโครงสร้าง รถไฟฟ้าจาก Siemens ที่ประเทศเรานำมาให้บริการประชาชน ซอฟแวร์องค์กรระดับพรีเมี่ยมจาก SAP ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมาตราฐานสากลจาก Alliance หรือ Deutsche Bank หรือแม้กระทั่งแบรนด์สินค้าสุขภาพ อุปโภคบริโภคทั่วไป เช่น Bayer Adidas เป็นต้น เชื่อว่าแทบทุกคนอยากมีส่วนร่วมกับความเจริญเติบโตก้าวหน้าของบริษัทชั้นนำเหล่านี้ และพร้อมก้าวเดินไปข้างหน้ากับเรา"นายสมจินต์ กล่าว