พร้อมจะรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม หวังเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีรายได้หลักจากธุรกิจโรงแรม ขณะที่คาดจะยังคงสภาพเป็นบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ต่อไปภายหลังการเข้าทำคำเสนอซื้อของบมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF)แล้วเสร็จ
"เรามองเป้าหมายธุรกิจว่าจะทำอย่างไรให้รายได้อสังหาริมทรัพย์เติบโตดีต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยเราก็เริ่มหันมาเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมและมองโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เพื่อผลักดันให้สัดส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เป็น 40% จากปัจจุบันมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก" นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ระดับ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากยอดขายในโครงการ HYDE Sukhumvit 13 และล่าสุดจะเปิดโครงการคอนโด ระดับไฮเอนด์ HYDE Sukhumvit 11 มูลค่า 4,000 ล้านบาท ในวันที่ 26-28 มิ.ย.นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เริ่มพรีเซลล์ครั้งแรกไปเมื่อวัน 28 มี.ค.58 และมียอดจองแล้ว 40%
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างมองหาโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายและก่อสร้างที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 59 ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีจำนวน 1 โครงการ โดยจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงแรมริมทะเลระดับ 4 ดาวเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง มองทำเลใน จ.ภูเก็ต, พัทยา และกระบี่ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังว่าในอนาคตสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มเป็น 40% และธุรกิจโรงแรมจะลดลงมาที่ 60% จากปัจจุบันที่สัดสวนรายได้ราว 90% มาจากธุรกิจโรงแรม โดยบริษัทมองว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะฟื้นตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อภาคประชาชนในระดับบนให้มีการออกมาซื้อสินค้ามากขึ้น และน่าจะส่งผลดีต่อตลาดระดับไฮเอนด์ แต่ตลาดระดับล่างยังคงทรงตัว เพราะธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากพอสมควร
นายนพดล กล่าวว่า ส่วนการที่ PF ได้ทำคำเสนอซื้อของบริษัทนั้นเชื่อว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่ขายหุ้นออกมาในการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นที่เสนอซื้ออยู่ที่ระดับ 1.29 บาท ต่ำกว่าราคาตลาดที่อยู่ระดับ 1.46 บาท อย่างไรก็ตามหลังจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้นแล้วคาดว่าหุ้น GRAND จะยังคงเป็นบจ.ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต่อไป แต่หุ้นของบมจ.ไทยพร็อพเพอร์ตี้ (TPROP) น่าจะออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
อนึ่ง PF ได้ประกาศแผนซื้อกิจการ TPROP และ GRAND โดยการเข้าซื้อกิจการ TPROP ทำให้ PF เข้าไปมีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญโดยอ้อม (Chain Principle) ใน GRAND ส่งผลให้ PF มีหน้าที่เข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ GRAND ด้วย