"เราต้องการขยายการสร้างรายได้จากช่องทางอื่นเพิ่มเติม ซึ่ง LINE TV เองก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าในระยะแรก ๆ อาจจะยังไม่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นสูงมากนัก แต่ก็เป็นการเพิ่ม Eyeball หรือเพิ่มจำนวนผู้ชมให้กับรรายการของเราได้มากขึ้น"นายพิรัฐ กล่าว
นายพิรัฐ กล่าวอีกว่า บริษัทกำลังมองหาโอกาสในการเข้าควบรวมกิจการ (M&A) โดยจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นโปรดักชั่นเฮ้าส์ หรือแม้แต่อีเว้นท์ ออแกไนเซอร์ ซึ่งบริษัทคาดว่ามีโอกาสที่จะได้ข้อสรุปในการเข้าซื้อกิจการ 1 แห่งภายในปีนี้ รวมถึงยังศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปร่วนทุนกับบริษัทที่เป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์ในต่างประเทศ หรือรายการฟอร์แมทอีก 2-3 รายการเพื่อเพิ่มโอกาส และขีดความสามารถในการผลิตรายการโทรทัศน์ ซึ่งทำให้ผลประกอบการในปีนี้จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายได้ในไตรมาสที่ 2/58 จะดีกว่าในไตรมาสแรกที่มีรายได้ 68.65 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 5.14 ล้านบาท และจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ตามปริมาณรายการที่ผลิตเพิ่มมากขึ้น และเป็นไปตามฤดูกาลของธุรกิจผู้ผลิตรายการโทรทัศน์
"การเข้าซื้อกิจการก็มีโอกาสที่จะได้เห็นในปีนี้ ซึ่งเราจะเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของเรา เช่น โปรดักชั่น เป็นหลัก และอาจจะขอร่วมทุนกับเจ้าของรายการฟอร์แมทเพื่อร่วมผลิตรายการอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าผลการดำเนินการของบริษัทฯก็จะดีขึ้นในทุก ๆ ไตรมาส ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นไปตามซีซั่นนอลของธุรกิจ และงานที่มากขึ้นด้วย"นายพิรัฐ กล่าว