ขณะที่ในส่วนของกำไรได้รับผลกระทบในแง่ราคาวัตถุดิบที่ลดลงอย่างมาก ทำให้ต้องปรับลดราคาสินค้าลงมาด้วย ซึ่งกระทบต่อมาร์จิ้น อย่างไรก็ตามบริษัทใช้กลยุทธ์ในการบริหารต้นทุนเพื่อควบคุมระดับกำไรให้อยู่ใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนต่างประเทศมีสัดส่วนไม่มากนักเพียง 5% จึงไม่สามารถช่วยผลักดันภาพรวมให้ฟื้นขึ้นได้
ทั้งนี้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ด้วยการเน้นทำการตลาดด้านดิจิทัลมากยิ่งขึ้น รวมถึงพยายามขยายตลาดต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ดังกล่าวคงจะยังไม่เห็นผลใน 1-2 ปีนี้ แต่เป็นการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับอนาคตมากกว่า
อย่างไรก็ตามยังมองว่าภาพรวมทั้งกลุ่มสหพัฒน์ฯในส่วนของรายได้ปีนี้จะยังคงเติบโตราว 5% จากปีก่อนที่ทำได้ 1.5 แสนล้านบาท เพราะมีภาคการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 30% เข้ามาช่วย ซึ่งได้ประโยชน์ช่วงที่เงินบาทอ่อนค่า ขณะที่บางธุรกิจในกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจยังมีการเติบโตที่ดีเป็นตัวเลข 2 หลัก
"ถ้าเฉพาะ ICC คงไม่โต แต่หากพูดถึงภาพรวมทั้งกลุ่มจะยังคงขยายตัวได้ เพราะข้อดีของกลุ่มสหพัฒน์คือมีสินค้าที่หลากหลายเกือบครบวงจรในภาคอุปโภคบริโภค ซึ่งบางรายธุรกิจยังเติบโตได้ดี ขณะที่ในปีนี้ภาคการส่งออกของเราซึ่งมีสัดส่วนโดยรวมถึง 30% น่าจะมาช่วยให้ภาพรวมยังเติบโตได้ เพราะได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า"นายบุญเกียรติ กล่าว