ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐได้ออกแถลงการณ์บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลาง การจ้างงานกระเตื้องขึ้น อัตราว่างงานทรงตัว อย่างไรก็ดี การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจและการส่งออกสุทธิยังอ่อนแอ เงินเฟ้อยังคงปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายระยะยาว โดยเจ้าหน้าที่ได้บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยมาอยู่เหนือระดับ 0.5% ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่การประชุมรมว.คลังกลุ่มยูโรโซนน่าจะมีการคุยกันถึงปัญหาหนี้สินของประเทศกรีซก่อนที่มาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซโดยสหภาพยุโรป (EU) จะสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายนนี้
โดยธนาคารกลางกรีซเตือนว่ากรีซมีความเสี่ยงที่จะถูกขับออกจากยูโรโซนหากกรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโซน ขณะที่ประธานยูโรกรุ๊ปเปิดเผยว่าโอกาสบรรลุข้อตกลงกับกรีซนั้นมีน้อยมาก หากกรีซและยูโรโซนยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก็ยังคงเหลือโอกาสอีกเพียงหนึ่งครั้งในการประชุมสุดยอดผู้นำ EU ในวันที่ 25-26 มิถุนายน ก่อนถึงกำหนดเส้นตายชำระหนี้ก้อนใหญ่ 1.6 พันล้านยูโรแก่ IMF และกำหนดจ่ายค่าจ้าง และเงินบำเหน็จบำนาญสูงถึง 1.5 พันล้านยูโรแก่ข้าราชการกรีซ
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนว่า SET ยังคงแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 1,500–1,520 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงชะลอการเข้าซื้อ เพื่อรอผลการประชุม รมว.คลังยูโรโซน ในวันที่ 18 มิถุนายน 2558 เกี่ยวกับการแก้ปัญหาหนี้กรีซว่าจะมีความคืบหน้าอย่างไร โดยมีปัจจัยหนุนจากการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือนที่จะสิ้นสุดงวดไตรมาสที่ 2 ของปี 2558
ดังนั้นแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร" เป็นรอบ (ลงซื้อ/ขึ้นขาย) ในกรอบ 1,500 – 1,530 จุด โดยแนะนำลงทุนในกลุ่มเดินเรือ เช่น TTA , PSL โดยคาดว่ารับอานิสงส์ค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือนล่าสุด 725 จุด รองลงมาเป็นกลุ่มโรงแรมและขนส่ง เช่น AOT, AAV, CENTEL, MINT จากปัจจัยบวกทางกระทรวงการท่องเที่ยวเตรียมชง ครม.อนุมัติแผนยุทธศาสตร์ปี 2558-60 ตั้งเป้ารายได้ 2.5 ล้านล้านบาท รวมถึง ICAO พอใจแผนแก้ไขปัญหาความปลอดภัย
นอกจากนี้ มองว่าหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าจับตา คือ หุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมายการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน เนื่องจาก Underperform SET ได้แก่ SAMART ,KBANK,KTB, RS
ด้านนายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำยังมีปัจจัยกดดันสำคัญได้แก่ การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกของสหรัฐจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้นในเดือนพฤษภาคม ตามราคาพลังงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของภาวะเงินเฟ้อได้จุดกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อทองคำและบดบังปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซ โดย IMF ได้ยุติการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้กรีซที่กรุงบรัสเซลส์ เนื่องจากมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากกับทางกรีซ
ขณะที่การเจรจาระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้เช่นกัน เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซซึ่งอาจส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เงินช่วยเหลือก้อนปัจจุบันของกรีซจะหมดอายุลง และในวันเดียวกัน รัฐบาลกรีซจะต้องชำระเงินกู้ราว 1.5 พันล้านยูโร คืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ส่วนประเด็นที่ต้องจับตาได้แก่การส่งสัญญาณของเฟดเกี่ยวกับระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปหลังการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16-17 มิถุนายนที่ผ่านมาเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% และระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้แต่จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป + ประเด็นหนี้กรีซยังคงต้องติดตามผลว่าจะมีทางออกอย่างไรหลัง IMF ได้ประกาศยุติการเจรจาหนี้กับกรีซอย่างเป็นทางการขณะที EU ยังไม่ยอมรับแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ ทั้งนี้ต้องติดตามการประชุมรมว.คลังกลุ่มยูโรโซน ในวันที่ 18 มิ.ย. ก่อนที่มาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซโดยสหภาพยุโรป (EU) จะสิ้นสุดลงในเดือนมิ.ย.
ดังนั้น ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสพักตัวก่อนขึ้นรอบใหม่ โดยแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิคหลังจากราคาพักฐานออกข้างระหว่างการปรับตัวขึ้นตามรูปแบบ V-SHAPE ได้มีการเปลี่ยนแนวรูปแบบขึ้นเป็นการสร้างแนวพักฐานในช่วงแขนของรูปแบบ BULLISH FLAG ที่ซ้อนอยู่ในรูปแบบของไหล่ขวาในรูปแบบหัวและไหล่ขาขึ้น โดยที่แท่งเทียนยังสามารถประคองตัวไปตามแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันได้ เป็นสัญญาณบวกทางเทคนิคที่ ให้ราคามีโอกาสพักตัวชั่วคราวก่อนปรับขึ้นรอบใหม่เพื่อขึ้นไปตามแรงส่งของรูปแบบหัวและไหล่ขาขึ้น จึงให้แนวรับ 1,165- 1,155 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,195-1,205 เหรียญต่อทรอยออนซ์