ทั้งนี้ บริษัทมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)เพื่อระดมทุนไปใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินในไตรมาสที่ 4/58, ลงทุนในโรงงานผลิตเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและเสาโทรคมนาคมในประเทศพม่า, ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
บมจ.เอสซีไอ อีเลคตริค เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายตู้สวิทช์บอร์ด รางเดินสายไฟและอุปกรณ์รองรับ, ผลิตและจำหน่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง เสาสื่อสารโทรคมนาคม และโครงสร้างเหล็กชุบกัลวาไนซ์ ภายใต้บริษัทย่อย, ธุรกิจบริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงดันสูงและระบบจำหน่ายไฟฟ้า
นอกจากนั้น บริษัทยังมีธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนภายใต้บริษัทย่อย คือ บริษัท ตาดสเลน พาวเวอร์ จำกัด(TAD) ที่สปป.ลาว ทำโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำขนาด 3.2 เมกะวัตต์ให้แก่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์(COD)ในปี 56 ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการนำเสนอเพื่อขออนุมัติโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าสี่ตัวเมืองในเฟสที่ 2 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ท่าแขก สะหวันนะเขต และปากเซ หลังจากได้เข้าดำเนินโครงการในเฟสแรกไปแล้ว
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 750 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้ว 562.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ณ วันที่ 1 พ.ค.58 คือ กลุ่มพฤฒินารากร ถือหุ้น 484,588,300 หุ้นหรือคิดเป็น 86.15% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วจะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 64.61%
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 57 มีรายได้รวม 2,851.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 2,209.88 ล้านบาท โดยรายได้หลัมาจากธุรกิจการขายและบริการงานโครงการ ขณะที่กำไรสุทธิ 326.73 ล้านบาท จากปี 56 ที่มีกำไร 174.08 ล้านบาท
ส่วนไตรมาสแรกของปี 58 ณ วันที่ 31 มี.ค.58 มีสินทรัพย์รวม 1,916.77 ล้านบาท, หนี้สินรวม 1,645.95 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 270.82 ล้านบาท โดยในมีรายได้รวม 615.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 403.66 ล้านบาท กำไรสุทธิ 71.94 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 15.31 ล้านบาท
บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือห้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และสำรองตามกฎหมายสำหรับงบการเงินเฉพาะของบริษัท