ประกอบกับ บริษัทได้มีการนำสินค้าไลฟ์สไตล์ ประเภทต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการ IOS มาจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น โดยสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่ให้อัตรากำไร(มาร์จิ้น)ดี ซึ่งจะส่งผลสนับสนุนอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในปีนี้มีโอกสวปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 10.36%
ล่าสุด วนนี้บริษัทได้ปิดตัวสินค้า Kevo หรือกลอนล็อกประตูแบบดิจิตอลที่สามารถเชื่อมผ่าน Bluetooth ทำให้สามารถผู้ที่ใช้โทรศัพท์ในระบบ iOS สามารถปลดล็อกประตูโดยไม่ต้องใช้กุญแจ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเปิดประตูบ้านและไม่จำเป็นต้องพกกุญแจจำนวนมาก ตั้งเป้ายอดจำหน่าย Kevo ในปีแรก 500 ตัว ปัจจุบันมีวางจำหน่ายในร้าน iStudio และงานคอมมาร์ทระหว่างวันที่ 18-21 มิ.ย.58
นายไตรสรณ์ กล่าวว่า บริษัทมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังกำลังซื้อของประชาชนน่าจะมีโอกาสฟื้นขึ้นมาจากครึ่งปีแรก หลังภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดี ประกอบกับภาพรวมตลาดไอทีน่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้น ซึ่งคนจะเริ่มมีการเปลี่ยนสินค้าไอที อย่างเช่น คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือที่ส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนกันในช่วงปลายปี โดยเฉพาะสินค้าของแอปเปิ้ล อย่างเช่น MAC และ iPhone
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ในปีนี้โต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.95 พันล้านบาท และจะมีการเปิดสาขาเพิ่มในเดือน ส.ค.นี้อีก 1 สาขา คือ ร้าน iStudio สาขาเซ็นทรัลเวสท์เกต ใช้เงินลงทุนประมาณ 2-3 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีร้าน iStudio 5 สาขา ร้าน iBeat 5 สาขา ร้าน mobi 4 สาขา ร้าน Ustore 9 สาขา และศูนย์บริการ 4 แห่ง
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/58 รายได้และกำไรสุทธิคาดว่าจะออกมาต่ำกว่าไตรมาส 1/58 เล็กน้อย เนื่องจากมีวันหยุดยาวค่อนข้างมาก ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่นำเงินไปใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวมากกว่าซื้อสินค้า ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยยังคงชะลอตัว ส่งผลต่อกำลังซื้อที่ลดลง ซึ่งเป็นผลให้ยอดขายสินค้าของบริษัทลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม สินค้าหลักของบริษัทยังมียอดขายที่ดี คือ iPhone 6 และ 6 Plus
อนึ่ง ไตรมาส 1/58 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 505.72 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.24 ล้านบาท