นายคมศร กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจจีนยังมีสัญญาณฟื้นตัวไม่ชัดเจนมากนัก แต่เชื่อว่าจีนยังมีเครื่องมือทางนโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี ผ่านการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลัง เพื่อทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่จะขยายตัวได้ 7% ในปีนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังให้ความสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างมาก โดยเน้นการปฏิรูปภาคการเงินเป็นสำคัญ อาทิ การเปิดเสรีในภาคการเงิน เช่น การลอยตัวอัตราดอกเบี้ย และการประกันเงินฝาก รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นด้วยการให้โควต้าการออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นจำนวน 2 ล้านล้านหยวนในปีนี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งเดิมอยู่ในรูปของทรัสต์และเงินกู้ระยะสั้น ให้กลับเข้ามาในตลาดพันธบัตรที่มีความโปร่งใสมากกว่า ดอกเบี้ยต่ำลง และอายุการกู้ยาวขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในภาคการเงินของจีน
"จะเห็นว่ารัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจให้เป็นไปตามกลไกตลาดมากขึ้น และมีความเป็นสากล ทั้งนี้เป้าหมายหลักของการปฏิรูป คือการผลักดันให้เงินหยวนเป็นที่ยอมรับในตลาดการเงินโลก และเป็นสกุลเงินสากล เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาว จากปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดดังกล่าว จึงทำให้ตลาดหุ้นจีนมีความน่าสนใจ โดยปัจจุบันหุ้นจีนยังเป็นหนึ่งในตลาดที่ Valuation ถูกที่สุดในโลก โดยซื้อขายที่ forward P/E เพียง 8 เท่า ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มการผ่อนคลายของนโยบายการเงิน และความคืบหน้าของการปฏิรูปเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นจีนต่อไป " นายคมศร กล่าว