"เบสทรินกรุ๊ป"เตรียมยื่นศาลฯขอคุ้มครองชั่วคราวเบรกขสมก.เซ็นซื้อเมล์NGV

ข่าวหุ้น-การเงิน Sunday June 21, 2015 16:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากบริษัท เบสทรินกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า นายไตรรัตน์ ศิริวัจน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก กรรมการบริษัท เบสทรินกรุ๊ป จำกัด ตนจะขออำนาจศาลปกครอง ขอให้คุ้มครองชั่วคราว และอาจฟ้องคดีอาญา ต่ออีกศาลก็เป็นได้ หลังจากแถลงข่าวเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.
กรณีที่ นายเค่อนัว หลิน ยื่นหนังสือร้องเรียนกรณีดังกล่าวต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบการประมูลจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี. จำนวน 489 คัน ด้วยงบประมาณ 1,700 กว่าล้านบาท

นายไตรรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ขสมก.จัดประมูลมากว่า 10 ปีแล้วผ่านมาแล้ว 6 รัฐบาล กระทั่งมาต้นปีนี้ มีการเปิดประมูลใหม่และมีบริษัทสนใจซื้อซอง 10 กว่าราย ปรากฏว่า เอกสารของบริษัททุกรายไม่ผ่าน ต้องเปิดประมูลใหม่เป็นครั้งที่ 2 บริษัทตนได้ส่งเอกสารเข้าไปใหม่ ปรากฏว่า ไม่ผ่านอีก จนต้องมาเปิดประมูลเป็นครั้งที่ 3 โดยมี บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน(CHO) ซึ่งกว่า 10 ปีที่ผ่านมาไม่เคยเข้ามาประมูลมาก่อนแต่ปรากฏว่าในครั้งที่ 3 บมจ.ช.ทวี กับบริษัท เบสท์รินกรุ๊ป จำกัด ของตนผ่านการตรวจสอบ ทั้งๆ ที่เอกสารของบริษัทตนที่ส่งเข้าไปเป็นตัวเดียวกัน ส่วนบริษัทอื่นๆ ไม่ผ่านทั้งหมด จากนั้นได้เข้าไปเสนอราคาผ่านระบบอิเลกทริกส์ หรือ e-auction ปรากฏว่า บริษัท ช.ทวี ดอลลาเชียน ชนะการประกวดราคา และล่าสุดเมื่อวานนี้ นางปราณี รักษาการณ์ผู้อำนวยการ ขสมก.ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่าการประมูลครั้งนี้ถูกต้องโปร่งใสทุกขั้นตอน และให้บริษัท เบสริน หยุดให้ข่าวในเชิงลบต่อ ขสมก.หากไม่หยุด ขสมก.จะฟ้องเบสท์ริน กรณีทำให้ ขสมก.เสื่อมเสียชื่อเสียง

นายไตรรัตน์ กล่าวว่าในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเบสริน ขอตั้งข้อสงสัยหลายข้ออาจถือได้ว่า การประมูลซื้อรถเอ็นจีวี ครั้งล่าสุดนี้ผิดกฎหมายและอาจเป็นโมฆะตั้งแต่ต้นและเคยถูกทักท้วงจากกรมบัญชีกลางแล้ว ดังนั้นการประมูลครั้งนี้ อาจต้องมีอันยกเลิก

นอกจากนี้ ผู้ชนะประมูลอาจขาดคุณสมบัติตามกรอบ TOR ขสมก.ไม่ให้ความสำคัญตรวจสอบแหล่งที่มาของโรงงานผลิต เคยมีคณะกรรมการบางรายถึงกับท้วงติงให้ตรวจสอบ มาตรฐานจากผู้ผลิตและความเชื่อถือจากประเทศผู้ผลิต

และถ้ายิ่งวิเคราะห์จากการให้สัมภาษณ์ของ นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHO ใน นสพ.ฉบับหนึ่ง นายสุรเดช กล่าวว่า โครงการนี้ติดตามมาตลอด เหตุที่ 2 ครั้งแรกไม่เข้าประมูลเพราะต้นทุนมันต่ำราคาจาก 4.5 ล้านบาทเหลือ 3.65 ล้านบาทต่อคัน บริษัททำไม่ได้ กระทั่งบริษัท Bouluck พันธมิตรของบริษัทตนที่อยู่ประเทศจีนเข้ามาคุยว่าสามารถทำให้ราคาต้นทุนถูกลงได้ จึงได้เข้าประมูลในครั้งสุดท้ายแล้วก็ชนะ Bouluck มีประสบการณ์เรื่องรถบัสทั้งด้านคุณภาพและราคาและต้องดูแลรถชุดนี้ไปนานถึง 10 ปี ในเมืองไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้วบริษัทได้นำรถชนิดนี้มาทดลองวิ่งและได้ขายให้ลูกค้าแล้ว ทุกวันนี้ยังใช้อยู่

ทั้งนี้มีคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจาก (คตช.) ชุดเฝ้าระวังโครงการจัดซื้อรถเมล์ตามข้อตกลงคุณธรรม ลาออก 2ท่าน เพราะ เกิดความไม่สบายใจขอลาออกและรายงานความไม่ชอบมาพากลของ ขสมก.นำเสนอ คตช.แต่เรื่องกลับเงียบผิดปกติ

ขณะที่ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม ไม่สนใจรายงานและการลาออกจากคณะกรรมการทั้ง 2 ท่าน สั่งการให้ ขสมก.ไปตั้งกรรมการตรวจสอบเป็นการภายใน ขสมก.เองและให้จัดซื้อรถเอ็นจีวี โดยเร็วที่สุด ขณะที่นางปราณี ศุกระศร รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. เคยให้สัมภาษณ์ว่า กรรมการ คตช.หมดภารกิจต้องออกไปโดยวาระหลังจากร่าง ทีโออาร์ เสร็จ และยังคงให้สัมภาษณ์ผลักดันเดินหน้าที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อรถล็อตนี้ให้ได้ เพียงแค่ให้ ขสมก.ไปตั้งคณะกรรมการภายในเพื่อทบทวนโดยมีเวลา 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 23 มิ.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ