ด้านนายอุปกิต ปาจรียางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด กล่าวว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าว ตั้งอยู่ในอ.กันบก จ.ทวาย รัฐทะนินทายี ของเมียนมาร์ ได้เดินเครื่องและจ่ายไฟฟ้าตามสัญญาผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและการซื้อไฟฟ้าระหว่างหน่วยงานราชการรัฐทะนินทายี (Tanintharyi Regional Government:TRG) และ Andaman Power
ขณะที่ตามแผนบริษัทจะลงทุนในกิจการโรงไฟฟ้าในเมียนมาร์ จำนวน 3 เฟส โดยเฟสแรก เป็นโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายแห่งนี้ การลงทุนเฟส 2 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 150-200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 59 ส่วนการลงทุนในเฟส 3 โรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขเกี่ยวกับปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ที่ทางบริษัทจะเจรจาทำความตกลงกับทางรัฐบาลเมียนมาร์ในปี 60
นายอุปกิต กล่าวต่อไปว่า โครงการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ ถือเป็นความร่วมมือและการลงทุนด้านพลังงานที่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมเป็นโครงการแรกในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย (Dawei Special Economic Zone: DSEZ) ประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในประเทศเมียนมาร์ ทั้งยังส่งเสริมศักยภาพการเติบโตของเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับประเทศไทยในการลงทุนด้านธุรกิจพลังงานรวมถึงธุรกิจอื่นๆในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย
อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้ รัฐบาลเมียนมาร์มีโครงการจะสร้างโรงไฟฟ้าอีกกว่า 2,000 เมกะวัตต์ ที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งจะเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคและแหล่งลงทุนใหม่ที่มีศักยภาพสูงในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย(Dawei Deep Sea Port) ที่เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และรัฐบาลเมียนมาร์
อนึ่ง UPA อยู่ระหว่างการดำเนินการเข้าซื้อหุ้น 100% ในอันดามันเพาเวอร์ฯ คิดเป็นมูลค่า 340 ล้านบาท หลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเมื่อเดือนที่แล้ว