"การร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ นับว่าถูกจังหวะและเวลา เนื่องจากกระแสความนิยมตลาดเพลงเอเชี่ยนยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงในขณะนี้และคาดว่าตลาดยังขยายตัวต่อเนื่องในอนาคต กอปรกับการผสมผสานศักยภาพและความเชี่ยวชาญในธุรกิจเพลงเจร็อคและเจป็อปในภูมิภาคเอเชียของ AVEX เข้ากับความชำนาญด้านคอนเทนต์บันเทิงและการให้บริการดิจิตอล คอนเทนต์ของบีอีซี-เทโร มิวสิค จะช่วยขยายฐานคอเพลงเอเชี่ยนให้แข็งแกร่งครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ในตลาดยิ่งขึ้น โดยจะเป็นส่วนเพิ่มเติมจากกลุ่มเพลงไทยและสากลที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว"นายพอล กล่าว
นายพอล กล่าวว่า เบื้องต้นจะร่วมมือกันทำตลาดด้วยการเสิร์ฟคอนเทนต์เพลงของศิลปินชั้นนำของค่าย AVEX มาจำหน่ายในรูปแบบซีดี และดิจิตอล และในอนาคตมีแผนจะขยายการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางใหม่ๆ และจัดกิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ดกับแฟนเพลงต่อเนื่อง เพื่อมาเติมเต็มเป้าหมายของบีอีซี-เทโร มิวสิค ในการเป็นผู้ให้บริการด้านดิจิตอล คอนเทนต์ ฮับ (Digital Content Hub) ของเมืองไทยอย่างเต็มตัว
สำหรับ AVEX มีศิลปินดังในสังกัดมากมาย เช่น Ayumi Hamasaki, Namie Amuro, Kumi Koda, AAA, EXILE, J Soul Brothers, Generations, E-Girls และ May J.
ขณะที่บีอีซี-เทโร มิวสิค ได้รุกตลาดเพลงเอเชี่ยนมาแล้ว 3 ปีในการก้าวขึ้นมาเป็นค่ายเพลงยอดฮิตของเมืองไทย โดยปัจจุบันมีฐานคอเพลงเจร็อคและเจป็อปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสำเร็จและการเติบโตอย่างรวดเร็วดังกล่าว เกิดขึ้นจาก 2 ปัจจัยคือ การนำเสนอคอนเทนต์เพลงที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
โดยที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมนำศิลปินกลุ่มเจร็อคและเจป็อบที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงชาวไทยมาเปิดการแสดงรวมถึงการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตของศิลปินในโรงภาพยนตร์มาโดยตลอด อาทิ Kaname Kawabata, NANA MIZUKI, Perfume, VAMPS และ Over The L’Arc~en~Ciel เป็นต้น และอีกปัจจัยหนึ่งคือ กลยุทธ์การผนึกกำลังกับพันธมิตร (Synergy Partners) ที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ ทั้งหมดนี้ทำให้บีอีซี-เทโร มิวสิคสามารถครองใจแฟนเพลงชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง