ส่วนภาคท่องเที่ยว ปัจจุบันไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสเมอร์ส โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผ่านมาข่าวการระบาดของไวรัสเมอร์ส และล่าสุดการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่มองว่าจะเป็นผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้น เพราะเชื่อว่ากระทรวงสาธารณสุขไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวได้
ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายถึง 2 ครั้งติดต่อกันของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เป็นผลดีที่จะช่วยกระตุ้นการบริโภคของประชาชน ในขณะเดียวกันยังส่งดีต่อค่าเงินบาท ทำให้ปรับตัวอ่อนค่าลงมาในช่วงที่ผ่านมา และจะเป็นผลดีต่อการส่งออกในครึ่งปีหลังด้วย
นายบุญชัย แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวที่ได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว และการลงทุนในโครงการขนาดใหญาของภาครัฐที่กำลังจะเกิดขึ้น
ด้านนายพงษ์พิเชษฐ์ นานานุกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทย มองว่าแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากจะมีโครงการภาครัฐฯเข้ามาสนับสนุน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดในระยะสั้นนี้ อาจจะได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคเมอร์สที่เริ่มพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศไทย รวมถึงปัญหาที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)ติดธงแดงประเทศไทยในเว็บไซด์ รวมถึงยังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของรัฐธรรมนูญและกรอบระยะเวลาเลือกตั้งที่ยังไม่ชัดเจน
ทั้งนี้ มองว่าจังหวะที่ดัชนีปรับตัวลดลงในระยะสั้นถือเป็นโอกาสซื้อสะสมเพื่อลงทุนในระยะยาวอย่างน้อย 1-2 ปี โดยมองว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะยาวยังน่าสนใจ โดยให้เป้าหมายของ SET Index ณ สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,650 จุด บนค่า P/E ที่ 16-17 เท่า และคาดกำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 58 จะเติบโตได้ราว 15-20% จากฐานต่ำของปีก่อน
"การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ LTF ยังเป็นที่น่าสนใจ เพราะมองว่าทางภาครัฐฯจะมีการต่ออายุของกองทุนรวม LTF ออกไปอีกสักพัก แต่อาจจะจำกัดการลดหย่อนให้ลดลง เพื่อลดการใช้ LTF เป็นโอกาสในการเลี่ยงภาษี"นายพงษ์พิเชษฐ์ กล่าว
นายพงษ์พิเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทมั่นใจปีนี้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ(AUM)ในปีนี้จะสูงขึ้นมาที่ 1.2 ล้านล้านบาทตามเป้าหมาย หลังจากในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาสามารถผลักดัน AUM เพิ่มขึ้น 1.1-1.2 แสนล้านบาทไปแล้ว จาก AUM สิ้นปี 57 อยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท
ช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมออกกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT)เพิ่มเติมอีก แต่ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการออกกอง REIT ดังกล่าว เพราะยังต้องรอติดตามภาวะตลาดให้มีความเหมาะสมก่อน นอกจากนี้ ยังมีแผนออกกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF)ด้วย เนื่องจากมองว่าตลาดต่างประเทศให้ผลตอบแทนดีกว่าในประเทศ ซึ่งตลาดที่น่าสนใจ ได้แก่ ญี่ปุ่น จากสภาพคล่องที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง