มร.อาร์โนด์ เบียเลคกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด มีทุนจดเบียน 5 ล้านบาท โดย บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส (AFS) ถือหุ้น 40% บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย ถือ 60% โดย AFS จะทำการตลาดด้วยการหาลูกค้าโดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมของอมตะทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า ขณะที่ะโซเด็กซ์โซ่จะส่งทีมบุคลากรและนำเทคโนโลยีเข้าไปดูแล ให้บริการ ซ่อมบำรุงให้กับบริษัทของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุนได้ราว 5-10% หรือไม่เกิน 10%
ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนดังกล่าวตั้งเป้าผลงานในปีแรก(6 เดือนหลังของปีนี้) ราว 10-20 ล้านบาท และภายใน 5 ปีจะมีรายได้ 1,000 ล้านบาท
"งานเซอร์วิสปีแรกๆ รายได้จะน้อยแต่จะขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้ามีการเซ็นสัญญาลูกค้าต่อเนื่อง ปีนี้เพิ่งเริ่มต้นมีรายได้ 10-20 ล้านบาทก็ดีแล้ว และใน 5 ปีรายได้ 1,000 ล้านบาทก็ดี ในแง่การลดค่าใช้จ่าย หรือลดต้นทุนให้ลูกค้าเริ่มต้นจะต่ำกว่า 10% แต่ถ้า save ได้ 5% จากวอลุ่มที่เยอะก็คุ้ม"มร.อาร์โนด์ กล่าว
นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน (AMATA) กล่าวว่า รายได้ของบริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซล จำกัด จะก้าวกระโดดเพราะเมื่อโรงงานใหม่ที่เข้ามาอยู่ในนิคมฯ เราก็จะมีการเข้าไปพูดคุยเจรจาตั้งแต่ day one ซึ่งจะเปิดให้บริษัทร่วมทุนดังกล่าวเข้าไปเจรจาได้เลย ถ้าได้ตามแผนเราก็จะโตก้าวกระโดด เพราะโรงงานที่เข้ามาอยู่ในอมตะไม่เล็ก เชื่อว่าเมื่อเข้าเจรจาหรือเสนองานบริการ ลูกค้าจะสนใจเพราะช่วยลดต้นทุน บริหารค่าใช้จ่ายให้ประหยัดได้แน่นอน
"ลูกค้าหลักเป็นโรงงานที่ตั้งอยู่แล้วในนิคมฯ และพวกที่กำลังจะเข้ามาจะ save ที่สุด เพราะเราจะคุยตั้งแต่ day one ส่วนรายที่เซ็นสัญญาไปแล้วก็ให้บริษัทร่วมทุนดังกล่าวเข้าไปคุย AMATA ก็เข้าไปคุยด้วย มั่นใจรายได้โตก้าวกระโดดแน่"นายวิบูลย์ กล่าว