ทั้งนี้ จากผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/58 จะเห็นได้ว่ายอดขายรวมของบริษัทจดทะเบียนใน mai เติบโตได้ถึง 3% และอัตรากำไรขั้นต้นปรับเพิ่มขึ้นจาก 22% เป็น 24% สะท้อนได้ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีความแข็งแกร่ง และยังมีเงินทุนที่เพียงพอในการดูแลสภาพคล่อง ซึ่งเป็ยผลดีจากการเข้ามาระดมทุนในตลาดทุน
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ตลาด mai ยังคงเป้าหมายการเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตจลาดรวม(มาร์เก็ตแคป)ในปีนี้ราว 1.5 หมื่นล้านบาท จากการรับหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียน(IPO) ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะมีอีก 16 บริษัทที่รอเข้าจดทะเบียนเพิ่มเติม ส่วนใหญ่จะเข้าจะจดทะเบียนในช่วงไตรมาส 4/58 หลังจากครึ่งปีแรกมีบริษัทใหม่เข้ามาจดทะเบียนแล้ว 2 บริษัท และในสิ้นเดือนนี้จะมีอีก 1 บริษัท