ความร่วมมือดังกล่าวทำให้ธนาคารมีศักยภาพในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างครบวงจร และความพร้อมในการเพิ่มโอกาสเติบโตแก่ลูกค้าธุรกิจที่จะขยายไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การสนับสนุนสินเชื่อในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศแก่ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่แล้วหลายราย เช่น กลุ่มเซ็นทรัลในการขยายธุรกิจรีเทลไปยังกลุ่มยุโรป กลุ่มไทยซัมมิทในการขยายธุรกิจไปยังประเทศอินเดีย เป็นต้น
"เราเชื่อมั่นในศักยภาพของกรุงศรีและ MUFG ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และทำให้ยอดสินเชื่อเติบโตได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ ผลประกอบการ ณ ไตรมาส 1 เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ มียอดสินเชื่อคงค้าง 383 พันล้านบาท"นายพรสนอง กล่าว
นายพรสนอง กล่าวว่า แผนธุรกิจระยะกลางของกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารที่มุ่งผลักดันการเติบโตของสินทรัพย์ เพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม และลดต้นทุนทางการเงินผ่านกลยุทธ์เพิ่มลูกค้าใหม่และการจัดกลุ่มลูกค้า (Segmentation) ที่ชัดเจนขึ้น ภายใต้แนวคิดในการใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อและบริการทางการเงินที่ครบวงจร(Total Financial Solutions) ได้แก่ บริการบริหารเงินสด (Cash Management) บริการธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) บริการเพื่อบริหารความเสี่ยงทางการเงิน (FX and Derivatives) บริการการเงินธนกิจและการลงทุน (Investment Banking) และสินเชื่อโครงการ (Project Finance)เพื่อต่อยอดโอกาสทางธุรกิจและธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน และภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ ธนาคารมุ่งผลักดันบริการ Investment Banking ในระยะแรกจะเน้นในเรื่องการให้คำปรึกษาในด้านการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ รวมถึงการให้สินเชื่อโครงการ (Project Finance) ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนการลงทุนของลูกค้าองค์กรในอีกรูปแบบหนึ่ง ตลอดจนให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) สำหรับลูกค้าที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ ทั่วโลกและลูกค้าญี่ปุ่นที่แสวงหาโอกาสลงทุนในไทย