ปัจจุบันคลื่นวิทยุในเครือ อสมท (MCOT Radio Network) สร้างเอกลักษณ์ความเป็นผู้นำสื่อวิทยุกระจายเสียงที่มีความเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ เป็นกลาง ในคอนเซ็ปต์สาระความรู้คู่ความบันเทิง โดยแต่ละคลื่นมีรูปแบบรายการที่แตกต่างกันทั้งคลื่น Talk, คลื่นข่าวและคลื่นเพลงเพื่อให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ F.M. 95 MHz ลูกทุ่งมหานคร, F.M. 96.5 MHz คลื่นความคิด, F.M. 97.5 MHz SEED วัยมันส์ พันธุ์ใหม่, F.M. 99 MHz Active Radio, F.M. 100.5 MHz คลื่นข่าว News Network, F.M. 107 MHz MET 107 For Live & Music เป็นต้น จากการกำหนดรูปแบบการนำเสนอของแต่ละคลื่นอย่างชัดเจนนี้เอง ทำให้คลื่นวิทยุ อสมท ได้รับความนิยมจากผู้ฟังทั่วประเทศ
สำหรับกระแสพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี จนส่งผลกระทบให้คนฟังวิทยุลดน้อยลงไปนั้น นายวิสุทธิ์ มีความเห็นว่าคนฟังวิทยุไม่ได้ลดน้อยลง เพียงแต่เปลี่ยนไปฟังบนแพลตฟอร์มอื่นมากขึ้น ทั้งทางแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้ธุรกิจวิทยุกระจายเสียงต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณาของธุรกิจวิทยุกระจายเสียงถูกแบ่งไปใช้ในสื่อดิจิทัลและสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งนอกจากจะต้องแข่งขันกับวิทยุสื่อหลักด้วยกันที่มีอยู่ถึง 500 กว่าสถานี รวมถึงวิทยุชุมชนอีกจำนวน 6,000 สถานีแล้ว โทรทัศน์ระบบดิจิทัลและสื่อโซเชียลมีเดียต่างก็เป็นคู่แข่งที่สำคัญของธุรกิจวิทยุกระจายเสียงด้วย
อย่างไรก็ตาม MCOT Radio Network ยังคงพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสร้างเนื้อหารายการที่ดีมีคุณภาพ โดยมีการวิจัยและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ชม พร้อมวัดประสิทธิผลของการทำการตลาดของรายการ นั้นๆ ว่าคุ้มค่าการลงทุนของลูกค้าหรือไม่ โดยสามารถวัดออกมาเป็นตัวเลขเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสปอนเซอร์โฆษณา รวมทั้งปรับวิธีการนำเสนอให้ทันสมัย สามารถเลือกรับฟังได้ในแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ ตลอดจนสามารถสื่อสารอินเตอร์แอ็คทีฟกับผู้ชมได้ในหลากหลายช่องทาง
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ด้านการทำกิจกรรมการตลาด อสมท ยังมีทีมครีเอทีฟในทุกคลื่นวิทยุเพื่อสร้างสรรค์งาน Tailor-made ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ในขณะเดียวกันยังเน้นการทำกิจกรรมร่วมกับผู้ฟังเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ฟังมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญในเรื่อง Two-way communication ระหว่างคลื่นกับกลุ่มผู้ฟัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ วิทยุ อสมท มีกลุ่มแฟนคลับที่เหนียวแน่น