ทั้งนี้ การหาพันธมิตรเป็นหนึ่งในแผนฟื้นฟูกิจการของทีโอทีเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจ(Turnaround)
"เรื่องหาพันธมิตรคิดว่าคืบหน้าต้น ก.ค.จะสรุปในบอร์ด"แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ทีโอทีมองแผนงานในระยะยาวองค์กรจะเน้นธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ควบคู่ไปกับธุรกิจบรอดแบนด์ โดยบริษัทได้บริหารโทรศัพท์คลื่นความถี่ 2100 MHz ที่มีจำนวน 5,000 สถานีฐาน ซึ่งมี Capacity รองรับลูกค้าได้ 5-6 แสนราย แต่ปัจจุบันมีลูกค้าอยู่เพียงจำนวนไม่กี่พันราย ในปีนี้จึงคาดว่าจะขาดทุนเป็นหลักหมื่นล้านบาท จากปี 57 มีกำไร 1.8 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้สัมปทานลดลงและจะหมดลงในเดือน ก.ย.58 ขณะที่มีค่าใช้จ่ายธุรกิจโมบาย 300 ล้านบาท/เดือน อย่างไรก็ดี ธุรกิจบรอดแบนด์ยังมีกำไรอยู่
ทีโอทีได้ปรับโครงสร้างธุรกิจแบ่งเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ดำเนินธุรกิจให้บริการแก่ผู้ประกอบการ ด้วยการให้เช่าเคเบิลใยแก้วนำแสง ให้บริการความยาวคลื่น และวงจรสื่อสัญญาณด้วยการรับประกันคุณภาพ 2.กลุ่มเสาโทรคมนาคม ดำเนินธุรกิจให้บริการ เช่าใช้พื้นที่สำหรับติดตั้งสายส่งสัญญาณ จานรับส่งสัญญาณโทรคมนาคมและอุปกรณ์อื่นที่เกี่ยวข้อง 3.กลุ่มอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ และเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ เช่น วงจรเช่าระหว่างประเทศ (IPSL) วงจรส่วนบุคคลระหว่างประเทศ
4.กลุ่มโทรศัพท์ ดำเนินธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครบวงจร ทั้งบริการสื่อสารทางเสียงและบริการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงเคลื่อนที่ 5.กลุ่มโทรศัพท์ประจำที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ดำเนินธุรกิจให้บริการโทรศัพท์ ประจำที่สื่อสารแบบมีสายหรือไร้สาย เช่น โทรศัพท์ประจำที่ โทรศัพท์สาธารณะ โทรศัพท์ระหว่างประเทศ บริการบรอดแบนด์ไร้สาย เอฟทีทีเอ็กซ์ เอดีเอสแอล ไว-ไฟ ไว-เน็ต และ 6.กลุ่มบริการด้านไอที ไอดีซี คลาวด์ ดำเนินธุรกิจอินเทอร์เน็ตศูนย์ข้อมูล(DATA Center)