"วันนี้รายได้ส่วนใหญ่มาจากน้ำมัน เพราะราคาน้ำมันสูง สัดส่วนรายได้ 20-30% มาจาก non-oil ส่วน 70% มาจากน้ำมัน แต่ในส่วนของกำไร non-oil เริ่มขยับมาใกล้กันแล้วที่ 40:60 หรือ 50:50 แล้วแต่ช่วงเวลา ในอนาคตถ้าเกิดประสบความสำเร็จค้าปลีกมากๆ ธุรกิจค้าปลีกก็จะเป็นอะไรที่ทำกำไรให้กับปตท.มากกว่าน้ำมัน"นายบุรณิน กล่าว
นายบุรณิน กล่าวว่า สำหรับเงินลงทุนในช่วง 4-5 ปีข้างหน้าของกลุ่มธุรกิจน้ำมันจะอยู่ในระดับ 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นการลงทุนปีละ 2-3 พันล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างสถานีบริการน้ำมันใหม่ การปรับปรุงสถานีบริการน้ำมัน ขณะที่การขยายร้านค้าทั้งในส่วนของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านกาแฟอเมซอน ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก โดยการลงทุนร้านอเม ซอน อยู่ในระดับ 2-3 ล้านบาท/สาขา
ตามแผนการขยายสถานีบริการน้ำมันใน 5 ปีนั้น ในส่วนของลาวจะเพิ่มเป็น 60 แห่งจาก 23-24 แห่งในปัจจุบัน ,ฟิลิปปินส์ เพิ่มเป็น 150 แห่งจาก 85 แห่งขณะนี้ และกัมพูชา เพิ่มเป็น 65 แห่ง จาก 20 แห่งในปัจจุบัน ส่วนในเมียนมาร์ยังไม่ได้เปิดดำเนินการในนามของปตท.เพราะเมียนมาร์ยังไม่ได้เปิดเสรี ขณะที่สถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยปัจจุบันมีอยู่ 1,400 แห่ง โดยปีนี้จะเปิดใหม่อีก 65 แห่ง แต่ก็ปิดสถานีบริการบางแห่งที่ไม่เหมาะสมหรือหมดสัญญาเช่า 30 แห่ง ทำให้คาดว่าการขยายสถานีบริการในประเทศนั้นจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 30-40 แห่ง/ปี ขณะที่ยังได้ศึกษาที่จะจัดทำรูปแบบสถานีบริการน้ำมันให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเหมาะสมกับพื้นที่เขตเมืองด้วย โดยคาดว่าน่าจะเริ่มเห็นรูปแบบใหม่ได้ภายในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
ส่วนธุรกิจ non-oil ได้แก่ ร้านอเมซอน ,ร้านเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ,ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงในอนาคตจะเพิ่มแบรนดิ์เกี่ยวกับสินค้าอาหารอีก 3-4 แบรนด์ในประเภทสินค้าไก่ทอด โดนัท เป็นต้น ขณะที่ในรูปแบบของค้าปลีก โดยเฉพาะร้านอเมซอน ตั้งเป้าหมายจะมีร้านอเมซอนในประเทศเพิ่มเป็น 2,000 แห่งใน 5 ปีจากปัจจุบันมีทั้งสิ้น 1,250 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 1,400 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยในส่วนนี้จะเป็นร้านอเมซอนที่อยู่นอกสถานีบริการน้ำมันราว 400 แห่ง ขณะที่ปัจจุบันมีร้านอเมซอนในลาวและกัมพูชา รวม 20 แห่ง และอยู่ระหว่างศึกษาตลาดเข้าไปในเมียนมาร์ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน เป็นต้น เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นระดับเอเชีย
"การเลือกไปต่างประเทศ เราก็เลือกที่ปตท.มีบริษัทอยู่ก่อน เช่น ไปลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ ก็มีบริษัทอยู่ที่นั่น พม่า ก็มีบริษัทอยู่ที่นั่น...เราจะเริ่มแบบนี้ก่อน ส่วนที่ญี่ปุ่น ก็มีคนสนใจแต่ต้องคุยกัน แต่ในหลักการถ้าอยากให้เป็นแบรนด์ในะดับอาเซียน หรือเอเชีย ประเทศหลักๆต้องไป คือญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลี จีน ใต้หวัน จึงจะพูดได้ว่าเป็นแบรนด์ระดับเอเชีย ส่วนในอาเซียนเราคงได้เห็นเร็วๆนี้ ส่วนแบรนด์ระดับเอเชียจะได้เห็นใน 5 ปี"นายบุรณิน กล่าว
นายบุรณิน กล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก หลังจากที่โรงคั่วกาแฟของปตท.ขนาด 2,700 ตัน/ปีจะแล้วเสร็จในเดือนพ.ย.58 ซึ่งบริเวณเดียวกันก็จะมีศูนย์ฝึกอบรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักภาพในการขยายงานของร้านอเมซอนออกไปมากขึ้น
สำหรับเป้าหมายยอดขายของธุรกิจน้ำมันในปีนี้คาดว่าจะอยู่ระดับ 4.8-5.0 แสนล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 6.35 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันในปีนี้ลดลง แต่ในส่วนของกำไรคาดว่าจะทรงตัว แม้ค่าการตลาดอยู่ในระดับเฉลี่ย 1.50 บาท/ลิตร ลดลงจากปีที่แล้ว แต่ปีที่แล้วธุรกิจน้ำมันได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต็อกค่อนข้างมาก ขณะที่ปีนี้ได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต็อกในช่วงต้นปีเท่านั้น เต่ในส่วนของปริมาณขายน้ำมันของปตท.ดีขึ้น หลังราคาน้ำมันถูกลง ทำให้ยอดขายของก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ในส่วนของ4ภาคขนส่งลดลง ขณะที่ยอดขายของก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(NGV) ทรงตัว
ทั้งนี้ ปริมาณการขายน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซล ผ่านสถานีบริการน้ำมันของปตท.ในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้เติบโต 8% เมื่อเทียบกับตลาดรวมเติบโต 5% โดยปตท.มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นราว 1% มาที่ระดับ 38% โดยปริมาณการขายน้ำมันเบนซิน ของตลาดเติบโตราว 14% และดีเซล เติบโตราว 2.1% เนื่องจากปริมาณการขาย LPG และ NGV ชะลอตัว โดยในส่วนของ LPG ลดลง 5-6% ขณะที่ NGV ทรงตัว