ไดอิ กรุ๊ป เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป FENZER, รับสร้างบ้านสำเร็จรูป GINZAHOME รวมทั้งจัดจำหน่ายพร้อมติดตั้งประตูและหน้าต่างอลูมิเนียมสำเร็จรูปจาก ATECH WINDOW โรงงานผู้ผลิตชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ขยายการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตรั้วสำเร็จรูปและสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนบ้านสำเร็จรูป แห่งที่ 2 ที่จังหวัดนครปฐม, สร้างโรงงานผลิตรั้วและสำนักงานขายที่จังหวัดระยอง, ลงทุนในโครงการบ้านเดอะกินซ่า 2 และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
นายธวัช กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายผลการดำเนินงานในช่วง 5 ปีจากนี้(ปี 59-63)รายได้รวมจะสูงขึ้นไปแตะ 1,000 ล้านบาทภายในปี 63 หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% โดยสัดส่วนรายได้หลักจะมาจากธุรกิจรับสร้างบ้าน 60% ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจรั้วสำเร็จรูป ประตูหน้าต่างอลูมิเนียมสำเร็จรูป รวมไปถึงการขายผ่านอินไลน์
ขณะที่อัตรากำไรสุทธิคาดว่าในช่วงปลายปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และในช่วง 3 ปีข้างหน้าน่าจะกลับมาสู่ระดับปกติที่ 15% จากปีนี้ที่อยู่ในระดับต่ำที่ 5% ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต แต่ในปีนี้บริษัทได้ปรับลดราคาเพื่อช่วยเหลือลูกค้า จึงมีผลกระทบกับอัตรากำไรสุทธิ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 35% ใกล้เคียงปีก่อน
สำหรับผลประกอบการในปี 58 บริษัทยังคาดว่ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 357.98 ล้านบาท โดยยอดคำสั่งซื้อของรั้วสำเร็จรูปมีการเติบโตแล้วกว่า 40% และยอดคำสั่งซื้อบ้านสำเร็จรูปเติบโตกว่า 69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นแนวโน้มผลประกอบการที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนราว 100 ล้านบาทเพื่อใช้ในการลงทุนโรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตอีก 120 หลัง/ปี จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 120 หลัง/ปี ส่วนโรงงานผลิตรั้วและสำนักงานขายที่โรงงานจังหวัดระยองจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/59
พร้อมกันนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยมองโอกาสการเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย อินเดีย มาเลเซีย และจีน โดยรูปแบบการลงทุนเบื้องต้นอาจจะเป็นการตั้งโรงงานร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดหวังว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเริ่มเข้ามาในช่วงปี 62