เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มการเติบโตและสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว โดยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าคาดว่า นักลงทุนต่างชาติจะหลั่งไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้น ธุรกิจอสังหาฯจะมีความโดดเด่นมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการที่อยู่อาศัย ออฟฟิศสำนักงานในรูปแบบให้เช่าทั้งระยะยาวและระยะสั้นถือเป็นการลงทุนที่เพิ่มช่องทางการรับรายได้ที่หลากหลายมากขึ้นของบริษัท
"ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จึงเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่บริษัทฯให้ความสนใจที่จะเข้าลงทุน โดยลักษณะการลงทุนนั้นก็จะเป็นไปในรูปแบบความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้างเป็นหลัก เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว"นางนลินี กล่าว
นางนลินี กล่าวว่า ในเร็วฯ นี้น่าจะได้เห็นความชัดเจนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท เพราะปัจจุบันได้มีการหารือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรับเหมาก่อสร้างอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
บริษัทเชื่อว่าภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 58 จะมีการเติบโตที่สดใสขึ้นจากการเติบโตของธุรกิจที่บริษัทได้เข้าลงทุนต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และบริษัทยังคงเดินหน้านโยบายการเข้าไปลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงิน ในสัดส่วนที่ไม่น้อยกว่า 75% และกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงินไม่เกิน 25% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ และภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ การลงทุนที่หลากหลายธุรกิจในกลุ่ม Holding Company เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากรายได้จากธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)ที่มีการแข่งขันที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นในอนาคต