"ตอนนี้สะท้อนให้เห็นว่าหลายตลาดฯได้ตอบรับเรื่องกรีซไปแล้ว ดังนั้นหลังจากนี้ตลาดฯน่าจะดีขึ้นได้"นางเกศรา กล่าว
นางเกศรา กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาของกรีซนั้น เชื่อว่าในที่สุดแล้วทางสหภาพยุโรป(อียู)น่าจะหาทางออกให้กับกรีซได้ และน่าจะรักษาสถานภาพของกรีซให้อยู่ในยูโรโซนได้ต่อไป แต่หลังจากนี้การแก้ไขปัญหาของกรีซไม่ใช่เป็นแค่ระยะสั้นเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ที่เพียงแค่แก้ปัญหาเพื่อใช้หนี้อย่างเดียว แต่น่าจะเป็นแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวมากกว่า
ในส่วนของบริษัทจดทะเบียนของไทยที่มีการส่งออกสินค้าไปขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรป(อียู)ก็มองว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจของกรีซค่อนข้างเล็ก โดยผลผลิตมวลรวมในประเทศ(GDP)ของกรีซเมื่อเทียบกับสัดส่วนของทั้งยุโรปจะคิดเป็นเพียงแค่ 2% เท่านั้น
นอกจากนั้น ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนของไทย เห็นได้ว่ายังมีการเติบโตที่ดี เมื่อเทียบกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในประเทศอาเซียน ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกในหุ้นที่มีการกระจายการลงทุนไปในหลาย ๆ ประเทศเพื่อบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ ยังมองว่าผลประกอบการของบริษัทด้านพลังงานก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว