"เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะพลิกแยกบางใหญ่ ให้เป็นเมืองธุรกิจใหม่ ซึ่งแยกบางใหญ่หรือเวสต์เกต นับว่าเป็นประตูของภาคตะวันตก ที่ซีพีเอ็น มั่นใจในศักยภาพด้านเมกะโปรเจคของภาครัฐที่เชื่อมต่อระบบคมนาคมทุกทิศ ทุกเส้นทางเข้าด้วยกัน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง-ขนส่งมวลชน-ท่าเรือ-ถนนวงแหวน-ทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ทำให้แยกบางใหญ่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่ครบครัน ครอบคลุมทุกประเภทการเดินทาง"นางสาววัลยา กล่าว
นางสาววัลยา กล่าวว่า เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต จะเป็นเดสติเนชั่นที่รวบรวมสุดยอดประสบการณ์ไลฟ์สไตล์และความบันเทิงสำหรับทุกคนในครอบครัว และเป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทั้งไทยและอินเตอร์ กว่า 500 ร้านค้า โดยจะมีห้างเซ็นทรัลดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ที่มีขนาดใหญ่เกือบ 4 หมื่นตารางเมตร และมีสินค้าครบครันระดับเดียวกับห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ,เวสต์เกต ซีนีเพล็กซ์ โรงภาพยนตร์ทุกระดับเวิลด์คลาส ,เอสบี ดีไซน์สแควร์ ,เวอร์จิ้น แอคทีฟ ฟิตเนสระดับพรีเมียม
นอกจากนี้ยังได้ประกาศแผนความร่วมมือระหว่างซีพีเอ็น และอีเกีย เฟอร์นิเจอร์ชื่อดังของโลกที่จะสร้างอิเกียสโตร์ โฉมใหม่ที่เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกตในอนาคต ซึ่งเป็นแห่งที่สองในไทย
"ความร่วมมือระหว่าง CPN และอีเกีย อยู่ระหว่างการดำเนินการตามเอกสารขั้นสุดท้าย ซึ่งการวางแผนชัดเจนแล้ว ทั้งขนาด การเชื่อมต่อกับศูนย์การค้า ซึ่งผู้บริหารของอีเกียมาดูสถานที่ด้วยตัวเองแล้ว อยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยม เขาเห็นศักยภาพของ CPN ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง ซึ่งอีเกียเป็นบริษัทชั้นนำต้องมีขั้นตอน รายละเอียดต่างๆ"นางสาววัลยา กล่าว
นางสาววัลยา กล่าวต่อว่า สำหรับศูนย์การค้า"เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต"ได้กันพื้นที่จำนวน 40,000 ตารางเมตรให้กับอีเกีย เพื่อก่อสร้างสโตร์สาขาที่ 2 ในไทยในฝั่งตะวันตก โดยคาดว่าจะเปิดได้ใน 2 ปีนี้ จากเดิมวางแผนพื้นที่ส่วนนี้จะทำเป็นโครงการในรูปแบบผสมผสาน (Mix Use) ทั้งเรสซิเดนท์เชียล ออฟฟิศ โรงแรม แต่ท้ายที่สุดแล้วเห็นว่าหากจะเป็นสุดยอด"ซูเปอร์ รีจินัล มอลล์"แห่งเซ้าท์อีสต์เอเชีย ควรจะทำพื้นที่ส่วนนี้เป็นรีเทลซึ่งจะเป็นจุดดึงดูดมากกว่า
โดยในปีแรกตั้งเป้าหมายจะมียอดผู้ใช้บริการศูนย์การค้าแห่งนี้ 8 หมื่นคน/วัน และเพิ่มเป็นระดับ 1-1.2 แสนคน/วันในระยะต่อไป หลังจะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ในบริเวณดังกล่าวมากขึ้น และมูลค่าสินทรัพย์ในบริเวณนี้มีราคาปรับขึ้น 2-3 เท่าแล้ว เช่น คอนโดมิเนียม จากตารางเมตรละ 4-5 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 8 หมื่น-1 แสนบาทแล้ว อีกทั้งเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต จะเป็นศูนย์การค้าที่รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ด้านตะวันตก เพราะจะเป็นจุดทางผ่านมุ่งหน้าไปจ.กาญนจบุรี ต่อไปทวาย ในเมียนมาร์ซึ่งก็จะมีกำลังซื้อเข้ามาด้วย
"มั่นใจในเศรษฐกิจไทยจึงลงทุนต่อเนื่อง และเดินหน้าลงทุนต่อ ถึงแม้ระยะสั้นจะมองว่าเศรษฐกิจนิ่งๆ แต่ในแง่การลงทุนระยะยาวยังมีแผนเดินหน้าต่อ ยังมั่นใจในคู่ค้าว่าจะไปได้ ถ้าเศรษฐกิจจะติดขัดบ้างก็ช่วยกัน แต่ถ้าเศรษฐกิจดีก็ไปด้วยกัน ใน 5 ปีนี้ก็ยังมั่นใจว่าจะไปด้วยกัน"นางสาววัลยา กล่าว
นางสาววัลยา กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มรายได้ปีนี้คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่คาดโต 10-12% จากปีที่แล้ว หลังไตรมาส 1/58 รายได้โตตามเป้าแล้ว โดยรายได้ของบริษัทมาจาก 2 ทาง คือยอดขายจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ ซึ่งเพิ่มจำนวนพื้นที่ของศูนย์การค้าทุกปี และรายได้จากค่าเช่า รวมถึงการเพิ่มแบรนด์ใหม่เข้ามาถ้าเป็นแบรนด์ที่ขายดีก็หนุนยอดขายได้ดี
"มองกำลังซื้อของคนนิ่งๆ ไม่ได้ตก เราก็กระตุ้นกำลังซื้อ ลดราคา อัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ให้คนที่มีเงินอยู่ออกมาจับจ่ายใช้สอยในศูนย์การค้าของเรา เพื่อเศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าด้วย เมื่อไตรมาส 1 โตตามเป้า คาดสิ้นปีทุกอย่างก็น่าจะเติบโตตามเป้า"น.ส.กัลยา กล่าว
อนึ่ง ปี 57 มีรายได้รวมราว 2.4 หมื่นล้านบาท
นางสาววัลยา กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดศูนย์การค้าใหม่ 4 แห่ง โดยเปิดไปแล้ว 2 แห่งทีจ.ระยองและภูเก็ต และจะเปิด"เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต"ใน 28 ส.ค.นี้ ส่วนที่เหลืออีก 1 แห่งจะเปิดเดือนต.ค.เป็นเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสท์ วิวล์ เลียบทางด่วน รามอินทรา นอกจากนี้ ปีนี้จะมีการปรับปรุงศูนย์การค้า 2 แห่ง คือเซ็นทรัลปิ่นเกล้า และบางนา
ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ คาดจะเห็นเปิดศูนย์การค้าแห่งแรกในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่ประเทศมาเลเซีย ชื่อเซ็นทรัลพลาซา ไอ ซิตี้ ในอีก 2 ปีหรือปี 60 ด้วยงบลงทุน 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างหลังการออกแบบเสร็จแล้ว