ในปัจจุบัน ช่องทางการจำหน่ายของ หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ มีกว่า 3,500 จุดขาย ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 เป็นลูกค้าในกลุ่มร้านอาหารชั้นนำทั่วประเทศมีกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศ อาทิ ร้านซานตาเฟ่ ร้านโมโม่ พาราไดซ์ ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นต้น โดยร้านค้าเหล่านี้ได้นำหมูดำซีพี-คูโรบูตะปรุงเป็นเมนูแนะนำของร้านและได้รับการตอบรับที่ดีและมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น ขณะที่อีกร้อยละ 30 เป็นช่องทางการจำหน่ายผ่านร้าน CP Butcher Shop ที่ตั้งอยู่ในโมเดิร์นเทรดชั้นนำกว่า 200 สาขา และซีพีเฟรชมาร์ทกว่า 600 สาขา ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ สดและกึ่งสำเร็จรูปพร้อมปรุงที่หลากหลายรูปแบบ โดยที่ร้านจะมีผู้เชี่ยวชาญให้บริการตัดแต่งชิ้นเนื้อตามต้องการ และให้คำแนะนำในเรื่องเมนูและวิธีการปรุงที่หลากหลายและอร่อย ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟยังได้ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารสำเร็จรูปจากหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ ได้แก่ หมูคาคูนิ และ พอร์คจิงเจอร์ ไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
ขณะที่นายวิทวัส ตันติเวสส รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านการตลาด ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่ายอดขายเนื้อหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะในปีนี้จะอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท โตขึ้นจากปีที่แล้วกว่าเท่าตัว โดยปีนี้ซีพีเอฟเดินหน้าทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบทั้ง Above-the Line และ Below-the Line เพื่อตอกย้ำให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงความพิเศษและความเป็นพรีเมี่ยมที่เป็นหนึ่งเดียว และเป็น King of Pork ของเนื้อหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่มีเชฟชื่อดังออกมารับรองคุณภาพหมูดำ ซีพี-คูโรปูตะ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น กิจกรรม “เทศกาล หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ" (CP Kurobuta Festival) กับร้านค้าที่ร่วมรายการกว่า 500 ร้านค้าเพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์กับความอร่อยของหมูดำ ซีพี-คูโรบูตะอย่างเต็มที่ ตลอดเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้
นายสัจจา ระหว่างสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัยพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์สุกร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ เป็นผู้นำด้านการวิจัยพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์สุกรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และ “หมูดำ ซีพี-คูโรบูตะ" เป็นหนึ่งในนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ที่บริษัทได้พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดี การพัฒนาพันธุ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในเมืองไทย รวมทั้งให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนของการเลี้ยงดู ตั้งแต่การเลี้ยงในฟาร์มระบบปิดที่มีมาตรฐานระดับโลกตามหลักการของ Food Safety มีการควบคุมอุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีการป้องกันโรคเป็นอย่างดี และที่สำคัญใช้อาหารสูตรพิเศษที่เป็นธัญพืชที่สดสะอาดไม่มีโปรตีนจากสัตว์และเหมาะสมกับสุกรในแต่ละช่วงอายุ เพื่อให้หมูสุขภาพดี แข็งแรง ปราศจากโรค และมีเนื้อที่นุ่ม และฉ่ำ ที่สำคัญมีความสะอาด ปลอดสารเร่งเนื้อแดง ปลอดภัยต่อการบริโภค
ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะก้าวสู่การเป็น “ครัวของโลก" ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศของมาตรฐานการผลิตโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่มีคุณภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการ ผ่านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานระดับโลก สะอาดถูกสุขอนามัย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มั่นใจอย่างสูงสุดในความปลอดภัยและคุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจของซีพีเอฟในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง