นอกจากนี้ บริษัท ยังคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จะไม่ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินของดีลการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท และHEMRAJ ขณะที่ด้านรายรับจะรับรู้รายได้และกำไรเต็มไตรมาส นอกจากนี้ยังมีการขายสินทรัพย์เข้า REIT จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินของบริษัท โดยบริษัทจะเร่งนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ ช่วยประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้ ตามแผนคือเดือน ก.ย.นี้
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนขายอาคารสำนักงานเข้า REIT ในมูลค่าประมาณ 2.4 พันล้านบาท, ขายสินทรัพย์โรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าของ HEMRAJ ในมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท และขายสินทรัพย์คลังสินค้าให้เช่าของ WHA ในมูลค่า 4.8 พันล้านบาท ทำให้บันทึกกำไรได้เพิ่มขึ้น
นายแพทย์ สมยศ กล่าวว่า ธุรกิจพัฒนาและให้เช่าโครงการคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการของธุรกิจนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่ธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงานได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายมีผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงาน ประมาณ 75-80% ของพื้นที่ทั้งหมด 21,500 ตารางเมตร แต่คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะมีผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานเพิ่มเป็น 90% ของพื้นที่ทั้งหมด
"ผลประกอบการโดยรวมของบริษัท คาดว่าเป็นไปตามเป้าหมาย คือมีรายได้ปีนี้เกือบ 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโต 400% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 5.05 พันล้านบาท และกำไรสุทธิในปีนี้ จะเติบโตก้าวกระโดดจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 978.62 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจใน 4 ส่วนคือ รายได้จากค่าเช่า รายได้จากเงินปันผล และรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน และรายได้ที่สามารถรับรู้จากผลการดำเนินงานของHEMARAJ"นายแพทย์สมยศ กล่าว
นายแพทย์ สมยศ กล่าวว่า ส่วนการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET50 SET100 และ SETHD สำหรับรอบครึ่งหลังของปี 58 (1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม) โดยหุ้นบริษัท ได้รับคัดเลือกให้เป็นหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET 50 และ SET 100 นั้น จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศสนใจลงทุนในบริษัทได้มากขึ้น เพราะการเข้าคำนวณใน SET 50 ได้นั้น หมายถึงมาร์เก็ตแคป ของบริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น
ณ วันที่ 26 มิ.ย. บริษัทมีมาร์เก็ตแคปที่ประมาณ 52,575 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นกว่า 670% เมื่อเทียบกับในช่วงที่บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อปี 55
ล่าสุดกองทุนต่างประเทศ ให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในบริษัท เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมั่นใจในศักยภาพธุรกิจและการบริหารงานที่มีความเป็นมืออาชีพ มีการเติบโตสูง มีความเสี่ยงต่ำ ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีกลุ่มฐานลูกค้าคุณภาพ และมีสภาพคล่องหุ้น หมุนเวียนตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ปัจจัยดังกล่าว ล้วนเป็นสิ่งดึงดูดให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในธุรกิจของบริษัท
"เมื่อเข้า SET50 แล้ว แน่นอนว่ากองทุนต่างประเทศหลายๆ แห่ง จะเข้าลงทุนในหุ้น WHA มากขึ้นอีกจากเดิมที่มีกองทุนยักษ์ใหญ่อันดับ 3 ของโลก คือ Capital Research เข้ามาถือหุ้นของบริษัทเกิน 5% เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยมาร์เก็ตแคปที่ใหญ่ สภาพคล่องที่ดีเป็นไปตามเกณฑ์ ข้อกำหนดของหลายๆ กองทุน และเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีกองทุนต่างประเทศหลายแห่งติดต่อขอข้อมูลบริษัทมาแล้ว"นายแพทย์สมยศ กล่าว