เครดิตพินิจแนวโน้ม “Developing" หรือ “ยังไม่ชัดเจน" สะท้อนความไม่แน่นอนของความสำเร็จจากธุรกรรมดังกล่าวซึ่งต้องขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้นของบริษัทปริญสิริและความสำเร็จของแผนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง นอกจากนี้ อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับของบริษัทยังขึ้นอยู่กับสถานะการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของบริษัทภายหลังจากการซื้อกิจการแล้วเสร็จด้วยเช่นกัน
ในระยะแรกของการทำธุรกรรมดังกล่าว บริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้ง จะซื้อหุ้น 100% ของ บริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยเน้นโครงการคอนโดมิเนียม สินทรัพย์หลักของบริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น ได้แก่ต้นทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย (1) โครงการเดอะแคปปิตอล ราชปรารภ-วิภาฯ (2) โครงการเดอะแคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อ (3) โครงการเดอะดิโพลแมท สาทร และ (4) โครงการเดอะดิโพลแมท 39 โดยมีมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้น 9,327 ล้านบาท และมีมูลค่าของห้องชุดที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายรวมกันทั้งสิ้น 7,515 ล้านบาท
หลังจากนั้น PRIN จะซื้อหุ้น 100% ของบริษัทเคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่นจากบริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้ง ที่ราคา 504 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,032 ล้านบาท โดย PRIN จะทำการชำระราคาค่าหุ้นของบริษัทเคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่นด้วยการออกหุ้นใหม่จำนวน 960 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 2,016 ล้านบาท ให้แก่บริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้ง และจะชำระส่วนที่เหลือด้วยเงินสดอีกจำนวน 2,016 ล้านบาท โดยเงินสดที่จะนำมาชำระค่าหุ้นส่วนที่เหลือจะมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 960 ล้านหุ้นที่ราคาเสนอขาย 2.10 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ PRIN จะรับโอนหนี้สินทั้งหมดที่บริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้ง มีอยู่ ณ วันโอนกิจการเสร็จสิ้น โดยจะหักออกจากราคาซื้อขายส่วนที่จะชำระเป็นเงินสด
หลังเสร็จสิ้นธุรกรรมดังกล่าวแล้ว สัดส่วนการถือหุ้นของตระกูลโกวิทจินดาชัยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทปริญสิริจะลดลงเหลือ 16% จาก 41.1% ในขณะที่บริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้งจะมีสัดส่วนการถือหุ้น 30.57% ใน PRIN ซึ่งจะทำให้บริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้งกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน โดยบริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้งจะต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ PRIN อย่างไรก็ดี บริษัทเคพีเอ็น โฮลดิ้งวางแผนจะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อดังกล่าวซึ่งจะต้องได้รับการลงคะแนนเสียงอนุมัติผ่อนผันจากที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของ PRIN ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงเสียก่อน ซึ่งการประชุมผู้ถือหุ้นจะจัดขึ้นในวันที่ 28 สิงหาคม 2558 ที่จะถึงนี้
ทริสเรทติ้งจะติดตามความก้าวหน้าของการทำธุรกรรมดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะทำการแก้ไขประกาศ “เครดิตพินิจ" อีกครั้งหลังการทำธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้นและทริสเรทติ้งได้ทำการวิเคราะห์ผลอย่างละเอียดแล้ว