NUSA เปิดตัว"ณุศาวัน"ลงทุนอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ทั้งในกทม.-ตจว.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 6, 2015 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) กล่าวว่า การเปิดตัวแคมเปญ"ณุศาวัน"(NUSA ONE) จะเป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ของอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ภายใต้คอนเซ็ปต์“One for All All for One":ซื้อหนึ่งได้ทุกอย่าง“เป็นเจ้าของ มีผลตอบแทน และได้ท่องเที่ยว"เจาะกลุ่มนักลงทุน เพิ่มโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุนในรูปแบบใหม่ ผ่านโปรแกรมพิเศษเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า

โปรแกรมพิเศษดังกล่าว ได้แก่ การันตีรายได้ 6.5%(จากราคาเต็ม) อายุสัญญาระยะเวลา 9 ปี โดยแบ่งเป็น เงินปันผล 5.5%ต่อปี ที่เหลือเป็น Point 1% ต่อปี พร้อมการันตีจ่ายปันผลทุก 3 เดือน และรับซื้อคืน (Buyback) โดย ณุศาวัน จะรับซื้อคืนในราคาที่ลูกค้าซื้อไป ผู้ซื้อสามารถจองห้องพักได้ โดยใช้ Point แลกและจองล่วงหน้า 30วัน ซึ่งลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุดด้วยการบริหารดูแลโครงการจากทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ด้านบริหารโรงแรมและรีสอร์ทจากต่างประเทศ

สำหรับโครงการที่เข้าร่วมแคมเปญดังกล่าว มีทั้งโครงการในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญรวม 8 โครงการ จำนวนกว่า 2,403 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.25-35 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท จากจำนวนโครงการทั้งหมดมี 3 โครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 58 จำนวน 852 ยูนิต รวมมูลค่า 3,894 ล้านบาท ประกอบด้วย

โครงการ Parc Exo เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ อาคาร C,D และ F จำนวน 568 ยูนิต ราคา 2.25-4.5 ล้านบาท ต่อยูนิต รวมมูลค่า 1,347 ล้าน ,โครงการ Up Ekamai กรุงเทพฯ จำนวน 118 ยูนิต ราคา 4.2-15 ล้านบาท รวมมูลค่า 924 ล้านบาท และโครงการ สเตท ทาวเวอร์ (ชั้น 28-32 และ ชั้น 42-50)จำนวน 166 ยูนิต ราคา 4.5-19 ล้านบาท รวมมูลค่า 1,623 ล้านบาท

ส่วนอีก 5 โครงการจำนวน 1,551 ยูนิต รวมมูลค่า 7,669 ล้านบาทนั้นอยู่ระหว่างดำเนินการมีกำหนดสร้างเสร็จและทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าในปี 2559-2560 ประกอบด้วย โครงการ ดีวารี ซิกเนเจอร์ ภูเก็ต อาคาร A,Bจำนวน 183 ยูนิต ราคา 5-12 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่า 1,138 ล้านบาท ,โครงการ ดีวารี ซิกเนเจอร์ พัทยา (เฟส 2) จำนวน 340 ยูนิต ราคา 4.7-19 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่า 1,998 ล้านบาท

โครงการดีวารี เวลเนส เขาใหญ่ (เฟส 1 จำนวน 93 ยูนิต, เฟส 2 จำนวน 119 ยูนิต) รวม 212 ยูนิต ราคา 5.3-35 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่า 1,115ล้านบาท ,โครงการ ณุศา ศรีราชา คอนโดเทล อาคารBจำนวน 298 ยูนิต ราคา 3.2-18 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่า 1,739 ล้านบาท และโครงการ ดีวารี ซิกเนเจอร์ เชียงใหม่ จำนวน 518 ยูนิต ราคา 2.6-4.2 ล้านบาท รวมมูลค่า 1,679 ล้านบาท

"สำหรับแคมเปญ “ณุศาวัน" เชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่สนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างแน่นอน"นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวตามลำดับในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หลังในช่วงไตรมาส 2 ตลาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น สะท้อนจากยอดขายที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยมาจากการเมืองที่นิ่ง มาตรการกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจของภาครัฐเริ่มส่งผลดี ทั้งการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานมีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และคาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกหลายปี ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจจะลงทุนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นกิจกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านซึ่งช่วยเปิดพื้นที่ศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดหัวเมืองเศรษฐกิจของภูมิภาคและเมืองท่องเที่ยว เป็นต้น ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยในจังหวัดเหล่านี้ ส่วนหนึ่งนอกจากจะรองรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของคนในประเทศแล้ว ยังเน้นกลุ่มเป้าหมายไปยังชาวต่างชาติที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยรับกระแส AEC เพื่อเป็นการลงทุนและเพื่ออยู่อาศัยด้วย

สำหรับแผนงานและนโยบายในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทยังคงดำเนินการภายใต้กรอบแนวคิด"โอกาส"ทางธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์เป็นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน รักษาสมดุลแหล่งที่มาของรายได้ ทั้งการพัฒนาโครงการจัดสรรหรือคอนโดมิเนียมขายให้กับผู้บริโภค และการลงทุนโครงการอสังหาฯที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการ ด้านการท่องเที่ยวหรือภาคบริการอื่นๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ