ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้รับการร้องเรียนจากผู้ลงทุนชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยว่า ได้รับการติดต่อชักชวนจาก PPI ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 209/1 อาคารเค ทาวเวอร์ อาคาร บี ยูนิต 4 ชั้น 19 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ให้ย้ายเงินบำนาญในต่างประเทศมาลงทุนตามคำแนะนำและบริหารจัดการของ PPI เพื่อประโยชน์ทางด้านภาษี และรับผลตอบแทนระยะยาว โดยผู้ลงทุนดังกล่าวหลงเชื่อลงทุนตามคำแนะนำ
และต่อมาได้รับความเสียหายจากการลงทุนดังกล่าว นอกจากนี้ PPI ยังใช้เว็บไซต์ www.ppi-advisory.com โฆษณาชวนเชื่อว่ามีทีมผู้แนะนำที่มากด้วยประสบการณ์และความรู้ที่สามารถช่วยให้คำแนะนำและจัดการลงทุน ที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าอีกด้วย
จากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ตามกฎหมาย เป็นความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 289 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน คือ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 ราย ต่อ ปอศ. เพื่อดำเนินคดีต่อไป และขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนกับบุคคลกลุ่มนี้ แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมไปยัง ปอศ. ที่โทรศัพท์ 0-2237-1199 เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายวสันต์ เทียนหอม รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ปัจจุบันมีการชักชวนประชาชนในหลากหลายรูปแบบ โดยอ้างการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนปกติทั่วไป มีการรับประกันเงินลงทุน อ้างอิงสกุลเงินต่างประเทศด้วยอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ หรือแอบอ้างว่าเป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมายจาก ก.ล.ต. หรือเป็นเครือข่ายของบริษัทต่างประเทศไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เป็นต้น ซึ่งมีผู้เสียหายแล้วจำนวนมากจากหลายกรณีที่ผ่านมา
ดังนั้น ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากเป็นการชักชวนให้ลงทุนในหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เช่น หุ้น ทองคำ น้ำมันดิบ สามารถตรวจสอบว่าผู้ชักชวนดังกล่าวได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือ ก.ล.ต. หรือไม่ ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th ภายใต้หัวข้อ License Check หากพบบุคคลที่น่าสงสัยว่าทำธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ ก.ล.ต. ที่โทร. 1207 เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป