(เพิ่มเติม) BCP คาดกำไรสุทธิ Q2/58มากกว่า Q1/58 หลังค่าการกลั่น-กลั่นน้ำมันสูงขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 7, 2015 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 2/58 จะสูงกว่าในไตรมาส 1/58 ตามค่าการกลั่นและปริมาณการกลั่นเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าค่าการกลั่นในไตรมาส 2/58 จะอยู่ที่กว่า 10 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และคาดว่าจะพลิกมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน หลังจากขาดทุนในช่วงไตรมาส 1/58

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมตั้งบริษัทย่อยเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้า และมีแผนจะนำเข้าซื้อขายในตลาดในอนาคตด้วย และอยู่ระหว่างเจรจาหาซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่ม และเข้าประมูล FiT Biding

"ไตรมาส 2 เรากลั่นน้ำมันได้ 1.1 แสนบาร์เรลต่อวันเฉลี่ยทั้ง 3 เดือน ค่าการกลั่นก็ทำได้กว่า 10 เหรียญต่อบาร์เรล ความจริง Q1 ดี แต่เรามีขาดทุนสต็อกเกือบ 2 พันล้านบาท Q2 น่าจะไม่ขาดทุนสต็อกอาจจะมีกำไรด้วย กำไรรวมก็น่าจะดีกว่าไตรมาสแรก"นายชัยวัฒน์ กล่าว

อนึ่ง BCP มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1/58 ที่ระดับ 1,037 ล้านบาท และมีการกลั่นน้ำมันระดับ 108,630 บาร์เรล/วัน โดยมีค่าการกลั่นพื้นฐานที่ระดับ 10.19 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อรวมผลกระทบจากสต็อกและการทำเฮดจิ้ง ทำให้มีค่าการกลั่นที่ระดับ 4.60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทสามารถกลั่นน้ำมันได้ทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 125,000 บาร์เรล/วัน สูงกว่ากำลังการกลั่นรวมที่มี 120,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากมีการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับ ค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูง และคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะกลั่นในระดับเกิน 100,000 บาร์เรล/วันได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทิศทางค่าการกลั่นด้วย

ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 3/58 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของค่าการกลั่น เพราะเป็นช่วงหน้าฝนและไม่มีกิจกรรมการเดินทางทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง แต่คาดว่าค่าการกลั่นจะกลับมาอยู่ในระดับสูงอีกครั้งช่วงไตรมาส 4 และประเมินว่าการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีนี้อาจสูงถึง 110,000 บาร์เรล/วัน สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ 105,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่บริษัทยังคงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมันตามแผนต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายจะกลั่นน้ำมันให้ถึงระดับ 140,000 บาร์เรล/วันในช่วงประมาณปี 60

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทยังคงคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้ที่ระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมองว่าการบริโภคน้ำมันในแต่ละประเทศเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่อยู่ระดับต่ำ ขณะที่าปัญหาหนี้กรีซจะไม่กระทบต่อตลาดน้ำมันมากนัก แต่ยังต้องจับตาประเด็นนิวเคลียร์อิหร่าน หากอิหร่านและชาติตะวันตกสามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 30 มิ.ย.เกี่ยวกับรายละเอียดของกรอบข้อตกลงที่ทำไว้ในวันที่ 2 เม.ย. สิ่งนี้ก็จะทำให้มีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ซึ่งจะทำให้อิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับลดลงได้ โดยกรณีนี้ราคาน้ำมันอาจจะกลับมาอยู่ในระดับต้น 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า เมื่อเร็วๆนี้คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจัดตั้งบริษัท บีซีพีจี จำกัด เพื่อลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน โดยจะเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจไฟฟ้าของบริษัท ซึ่งจะเป็นการนำธุรกิจไฟฟ้ามาอยู่ภายใต้บริษัทใหม่ และในอนาคตก็อาจจะนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป

ปัจจุบัน บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบโซลาร์ฟาร์มทั้งหมด 118 เมกะวัตต์ และเดิมตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มในปีนี้เป็น 250 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากการซื้อหรือร่วมทุนในโรงไฟฟ้าอื่น ตลอดจนการลงทุนในโรงไฟฟ้าใหม่ แต่ล่าสุดได้ปรับเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในปีนี้เหลือเป็นระดับ 200 เมกะวัตต์ แต่ยังคงเป้าหมายระยะยาวจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 500 เมกะวัตต์ในปี 63

ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อหรือร่วมทุนโรงไฟฟ้าหลายแห่ง รวมถึงในส่วนของโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น ซึ่งร่วมกับกลุ่ม บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW) และยังให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed in Tariff Biding (FiT- biding) ในประเทศที่รัฐบาลเตรียมเปิดเร็วๆนี้ โดยจะต้องศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนต่อไป รวมถึงยังได้เจรจากับกลุ่มสหกรณ์ต่างๆเพื่อเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์การเกษตร จำนวน 800 เมกะวัตต์ ส่วนนี้คาดว่าจะได้งานไม่ถึง 50 เมกะวัตต์

ส่วนความคืบหน้าในการลงทุนเหมืองลิเธียมในสหรัฐนั้น ล่าสุด คณะกรรมการบริษัทอนุมัติตั้งบริษัท BCP Innovation Pte.Ltd. เพื่อเข้าลงทุนด้วยการถือหุ้น 7% เหมืองลิเธียมในสหรัฐแล้ว และคาดว่าจะมีการโอนหุ้นเรียบร้อยภายในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเป็นการนำแร่ลิเธียมจากเหมืองเข้าสู่โรงงานผลิตลิเธียมคาร์บอเนต โดยจะมีผลผลิตออกมาในราวปี 60 ขณะที่ช่วงเริ่มสร้างโรงงานหากมีแนวโน้มดี ก็มองโอกาสที่จะถือหุ้นเพิ่มเป็นระดับ 20% ในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ