เนื่องจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างรีบาวน์กันขึ้นมาได้บ้างแล้ว แต่ปัจจัยนอกประเทศยังต้องรอดูเรื่องของกรีซในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ท่าทีก็ดูดีขึ้น ส่วนเรื่องของจีน แม้ว่าจะมีข่าวเรื่องฟองสบู่ของเศรษฐกิจจีน แต่ล่าสุดหน่วยงานต่าง ๆ ออกมาตรการต่าง ๆ มาเพื่อหยุงหุ้นและป้องกันเศรษฐกิจจีน ตรงนี้ทำให้ตลาดภูมิภาคดีขึ้น แต่ก็ยังกดดันสินทรัพย์เสี่ยงอยู่
ส่วนปัจจัยในประเทศก็มีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งถ้าเศรษฐกิจยังมีความอ่อนแอต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่แบงก์ชาติจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก แต่ในช่วงสั้นทางกระทรวงพาณิชย์ก็พยายามที่จะมีมาตรการพิเศษเพื่อหนุนการส่งออก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะเป็น Sentiment ที่ดีขึ้นต่อกลุ่มส่งออก
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(8 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,515.42 จุด ร่วงลง 261.49 จุด(-1.47%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,909.76 จุด ลดลง 87.70 จุด(-1.75%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,046.68 จุด ลดลง 34.66 จุด(-1.67%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 314.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 16.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 81.06 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 74.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 23.82 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 8.57 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 114.83 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(8 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,470.25 จุด ลดลง 13.52 จุด(-0.91%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,342.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(8 ก.ค.58) ปิดที่ 51.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 68 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(8 ก.ค.58)ที่ 5.73 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.96/98 แข็งค่าจากแรงขายทำกำไร นลท.ยังรอดูสถานการณ์กรีซ
- หุ้นจีนร่วงหนัก 30% ในรอบ 3 สัปดาห์ ฉุดหุ้นค่าเงินร่วงทั้งภูมิภาค ด้านเอดีบีเตือนรับมือฟองสบู่หุ้นจีนแตก ลามสู่เศรษฐกิจจริง กระทบส่งออกและเศรษฐกิจไทย จับตาฟองสบู่หนี้ ขณะ ธปท.ประเมินกระทบตลาดเงินโลกไม่มาก พร้อมจับตาผลกระทบใกล้ชิด
- นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.)เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พ.ค.58 มีทั้งสิ้น 5.68 ล้านล้านบาท คิดเป็น 42.58% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 8.87 หมื่นล้านบาท โดยหนี้ของรัฐบาลลดลง 7.38 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการนำเงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ 6 หมื่นล้านบาท ไปชำระคืนหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดรัฐบาลที่ครบกำหนด
- รมว.พาณิชย์ เดินหน้าแผนพิเศษผลักดันส่งตามเป้าหมาย 1.2% มูลค่า 2.3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เน้นสินค้า 4 กลุ่มหลัก พร้อมนำคณะเอกชนโรดโชว์เจรจาการค้าต่างประเทศ เชิญซีอีโอยานยนต์หารือ ดึงต่างชาติร่วมแสดงสินค้า สั่งพาณิชย์ทุกจังหวัดขายสินค้าราคาถูกให้ประชาชน
- นายกฯ ยอมรับเบิกจ่ายงบประมาณไม่ทันใจ ไม่โยนผิดให้ข้าราชการ เชื่อทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ สั่งรัฐมนตรีทุกกระทรวงเร่งเซ็นจัดซื้อจัดจ้างให้ทัน 31 ก.ค.นี้ ด้านสำนักงบฯ ห่วง 5.9 หมื่นล้านยังไม่ได้เซ็นสัญญา ส่วน สบน.รับรถไฟรางคู่ 2 เส้นทางอืดเล็งให้ ครม.ช่วยจี้
- กระทรวงท่องเที่ยวชงยุทธศาสตร์ 5 ปีเข้าครม. เน้นผนึกกำลัง 8 หน่วยงานปั้นรายได้ตามเป้าหมาย พร้อมรับรายได้ในประเทศยังอืด 4 เดือนได้แค่ 2 แสนล้านบาท หวังตลาดต่างประเทศชดเชย หลังพบ 6 เดือนโกยกว่า 7 แสนล้าน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TPOLY-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ไทยโพลีคอนส์(TPOLY)เทรดวันนี้วันแรก จำนวน 125,976,090 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 29 มิถุนายน 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 มิ.ย. 2561
ทั้งนี้ TPOLY-W2 เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 2 : ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9-24 ก.ค. 2558
- TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 28 บาท มี Sentiment บวก หลังราคาน้ำมันดิบทรงตัวต่ำกว่า US$55.00/barrel ส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากเป็นต้นทุนการผลิต ทำให้ส่วนต่างราคาระหว่างยางมะตอย-น้ำมันเตากว้างขึ้น คาดกำไรสุทธิ 2Q58 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1.2-1.4 พันล้านบาท จากแรงหนุนตลาดต่างประเทศ หลังจีนสั่งซื้อ Lot ใหญ่ 2.5 แสนตัน อัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวสูงเนื่องจากทำสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าแล้วราว 3-4 เดือน
- กลุ่มสื่อสาร(ฟินันเซีย ไซรัส)ดูเสี่ยงน้อยสุด การประมูล 4G ที่ดูชัดเจนขึ้นมากนับเป็นบวกต่อทั้ง Sentiment และผลประกอบการในอนาคต โดยยังชอบ ADVANC (เป้าหมาย 300 บาท), INTUCH (เป้าหมาย 108 บาท) ขณะที่ THCOM (เป้าหมาย 50 บาท) จะได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อน รวมถึงผลประกอบการที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น