การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,472.56 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,461.57 จุด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่โดยรวมติดลบ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนแต่เมื่อถึงจุดหนึ่งก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้เห็นว่าดัชนีฯมีการรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้างแม้ว่าจะยังอยู่ในแดนลบก็ตามซึ่งเป็นลักษณะของการเก็งกำไร
ทั้งนี้ ตลาดฯยังเฝ้าจับตาเรื่องของกรีซ แม้ว่าตลาดฯจะซึมซับไปแล้ว แต่ถ้าการเจรจาของกรีซกับเจ้าหนี้สามารถลงเอยกันได้ก็จะทำให้ตลาดฯรีบาวน์ได้ ส่วนเรื่องของจีนที่ออกมาในเชิงลบ จาก impact ที่จีนมีการเพิ่มเกณฑ์การวางหลักประกันมาร์จิ้น(margin requirement) แต่ในช่วงหลังจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตในอัตราที่ช้าลง ดังนั้นภาพของจีนเป็นอะไรที่ยังต้องรอดูอยู่ อย่างไรก็ดีให้วันศุกร์นี้ให้ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และก็ต้องรอดูว่าจะมีการพูดเรื่องของดอกเบี้ยด้วยหรือเปล่า
สำหรับปัจจัยในประเทศในเรื่องของการคาดการ์ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์จะเห็นได้ว่าตลาดฯได้ตอบรับไปแล้ว และสัปดาห์หน้าก็จะเริ่มทยอยประกาศงบฯกลุ่มแบงก์ออกมา ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเป็นอย่างที่คาดการณ์กันไว้หรือไม่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายธนเดช กล่าวว่า ดัชนีฯคงจะแกว่งตัวแต่ก็มีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้บ้าง ซึ่งควรจะจับตาไปที่ตลาดในยุโรปที่จะเปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร เพราะอาจจะเป็นสัญญาณล่วงหน้าที่มาจากเรื่องของกรีซก็ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,387.17 ล้านบาท ปิดที่ 337.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,010.45 ล้านบาท ปิดที่ 101.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
TASCO มูลค่าการซื้อขาย 799.94 ล้านบาท ปิดที่ 24.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 727.91 ล้านบาท ปิดที่ 148.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 701.27 ล้านบาท ปิดที่ 182.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท