อย่างไรก็ตาม มุมมองของเราเห็นว่าการปรับขึ้นของตลาดเป็นเพียงการรีบาวด์ แม้ว่าโดยรวมตลาดหุ้นต่างประเทศจะดี ขึ้น แต่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรคืบหน้า และยังคงเห็น Fund Flow ไหลออกจากตลาด โดยนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิ และ มี net short
ในสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดจะแกว่งตัวชึ้นเล็กน้อย แต่ในภาพระยะกลางและระยะยาวยังมองว่าปรับตัวลงอยู่ โดยใน วันจันทร์หน้า(13 ก.ค)ให้แนวค้านที่ 985 จุด แนวรับที่ 970, 960 จุด นอกจากนี้ การปิดทำการของตลาดหุ้นฮ่องกงและไต้หวัน จากพายุไต้ฝุ่น และแนวโน้มญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์อาจปิดทำการหากพายุไต้ฝุ่นเข้า ปัจจัยนี้ส่งผลด้านจิตวิทยา
ส่วนราคาทองคำช่วงนี้ทรงตัว แต่เห็นว่าแนวรับที่ลงไปต่ำสุด 1,140 เหรียญ/ออนซ์ในวันพุธที่ผ่านมา(8 ก.ค.) เป็นฐานสำคัญ เพราะมีการดักซื้อและราคาก็รีบาวด์ขึ้นไป จึงเห็นว่าปัจจัยลบราคทองคำไม่มีแล้ว รอเพียงปัจจัยใหม่เข้ามา ดังนั้น ช่วงนี้สะสมไว้ก่อน
แนะให้ซื้อทองแท่ง หรือถ้าเล่นสัญญาให้เทรดระยะสั้น มองแนวรับที่ 1,155 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้านที่ 1,170- 1,175 เหรียญ/ออนซ์ แนะนำให้ให้ซื้อหรือ long หากราคาลงมาใกล้แนวรับ และขายออกในระดับแนวต้าน
นอกจากนี้ จากที่ FOMC จะยืดเวลาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเลื่อนไปเป็นปีหน้าจะเดิมจะปรับขึ้นในปีนี้ เพราะภาวะ เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 977.57 จุด เพิ่มขึ้น 10.15 จุด, +1.05%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 132,321 1,144,947 Total Futures 130,773 1,134,939 SET50 Index 96,177 259,851 Sector Index - - Single Stock 31,282 847,900 Precious Metal 3,071 20,814 -GF10 2,837 18,504 -GF50 234 2,310 Curency 156 5,925 Energy 87 449 Interest Rate - - Total Options 1,548 10,008 Call 720 3,898 Put 828 6,110 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures +6,536 +5,731 -12,267 Options -206 +46 +160