ทั้งนี้ บริษัทได้รับมติอนุมัติศึกษาธุรกิจพลังงานทดแทนจากที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นปี 58 เรียบร้อยแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนรวมทั้งดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าสำหรับใช้เองเพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน และอาจนำกำลังผลิตเหลือใช้ไปขายด้วย
"การศึกษาที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนก็เพื่อเป็นทางเลือกให้กับบริษัท เป็นการ Diversified เพราะเรามีพื้นที่หลังคาโรงงานเป็นเป้าหมายแรกก็มีโอกาสที่จะทำ Solar Rooftop สำหรับใช้เองเพื่อลดต้นทุน และเพื่อจำหน่ายด้วย"นายสุทิน กล่าว
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ นายสุทิน กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้จากการขายในปี 58 น่าจะใกล้เคียงกับปี 57 ที่มีรายได้จากการขายสินค้ากว่า 3,000 ล้านบาท เป็นไปตามภาพรวมอุตสาหกรรม เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว และยังมีปัญหาภัยแล้งเข้ามากระทบเพิ่มอีก โดยเฉพาะตลาดในภาคอีสานที่กำลังซื้อลดลงตามรายได้ ซึ่งยอดขายขายในครึ่งปีแรกคาดว่าใกล้เคียงกับปีก่อน
ส่วนแนวโน้มครึ่งหลังก็น่าจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก ซึ่งบริษัทรอปัจจัยสนับสนุนจากงบการลงทุนของรัฐบาลที่จะกระตุ้นภาคก่อสร้าง เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อคตลาดวัสดุก่อสร้างด้วย แต่หากการลงทุนของรัฐบาลล่าช้าออกไปก็จะส่งผลให้ความต้องการในกลุ่มวัสดุก่อสร้างลดลง
"ปีนี้แค่ maintain ยอดขายไม่ให้ต่ำกว่าปีก่อน ขณะที่อุตสาหกรรมก็ไม่โต แต่หวังผลจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หนุนยอดขาย"
ทั้งนี้ ปี 57 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า รวมทั้งสิ้น 3,314 ล้านบาท
นายสุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทให้ความสำคัญการตลาดของกระเบื้องขนาดใหญ่ เช่น 30x60 ซม.เพื่อทดแทนสินค้านำเข้าและเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการบ้านจัดสรรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งทางภาครัฐและเอกชนซึ่งหลังเปิดตัวราวเดือน พ.ค.58 ผลตอบรับดีตอบสนองลูกค้าในตลาดกลางบน และกระเบื้องพอร์ซเลนรุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์"ดูราเกรส"ที่มีการนำนวัตกรรมการเคลือบและขัดผิวหน้าแบบพิเศษเข้ามาใช้ ทำให้กระเบื้องมีความเงามันกว่ากระเบื้องขัดผิวหน้าทั่วไป
ปัจจุบันตลาดกระเบื้องหันมานิยมกระเบื้องประเภทพอร์ซเลนกันมากขึ้น ซึ่งกระเบื้องพอร์ซเลนใช้กำลังการผลิตของโรงงาน บริษัท ที.ที. เซรามิค จำกัด (TTC) เป็นฐานการผลิต หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ปลายปี 57 ผลตอบรับดียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นายสุทิน เปิดเผยอีกว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมงบการตลาด 2-3% ของยอดขาย ซึ่งเป็นไปตามภาวะปกติ ขณะที่การแข่งขันก็มีบ้างแต่ UMI ก็จะขายสินค้ามูลค่าเพิ่มมากขึ้น และการที่ผลิตเองได้เพิ่มขึ้นก็ลดการนำเข้าลงได้ ซึ่งส่งผลดีต่อต้นทุน
ส่วนกระแสข่าวเรื่องที่ UMI อาจขายหุ้นที่ถืออยู่ใน บมจ.โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม (RCI) ออกนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเป็นนโยบายของทีมบริหาร