"ก่อนหน้านี้บริษัทได้เพิ่มทุนขาย PP ราคา 0.60 บาท/หุ้นไปแล้วสองครั้ง ได้รับเงินระดมทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 630 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้นำไปใช้ในการชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้การค้า และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ซึ่งส่งผลให้ PAE สามารถดำเนินธุรกิจมาได้จนถึงปัจจุบัน และเริ่มมีฐานะทางการเงินดีขึ้น ไม่ต้องเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว"นายรัฐชัยกล่าว
ทั้งนี้ ราคาหุ้น PAE เมื่อเวลา 10.35 น.อยู่ที่ 0.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท (+5.26%)
นายรัฐชัย กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 57 ที่มีผลขาดทุนจำนวน 635 ล้านบาทเนื่องจากมีการตั้งสำรองโครงการรับเหมาก่อสร้างอาคารที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจำนวนมาก แต่ปีนี้ไม่มีผลกระทบดังกล่าวแล้ว ปัจจุบัน บริษัทามุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้าน Oil and Gas เป็นหลัก ทำให้ผลการดำเนินงานค่อยๆปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าในปีนี้ผลประกอบการจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ ขณะที่รายได้รวมของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 58 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการมุ่งเน้นดำเนินงานในธุรกิจหลัก ด้านการประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์โครงสร้างเหล็กท่อใช้กับธุรกิจ Oil and Gas และงานบริการซ่อมบำรุง
อนึ่ง PAE รายงานว่าไตรมาส 1/58 บริษัทมีผลขาดทุน 35.76 ล้านบาท เป็นการขาดทุนที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 57.19 ล้านบาท
นายรัฐชัย กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรก PAE เข้ารับงานโครงการใหม่จำนวน 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท และมีมูลค่างานในมือที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน(Backlog)ราว 1,500 ล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังต่อเนื่องไปจนถึงปี 59 นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มเติมรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายได้รับงานราว 50% ของมูลค่างานที่ประมูลใหม่ดังกล่าว
ส่วนแผนการล้างขาดทุนสะสมจำนวนประมาณ 2,000 ล้านบาทของบริษัท ส่วนหนึ่งจะทยอยลดขาดทุนสะสมโดยเร่งเดินหน้าธุรกิจหลักให้มีกำไร ลดต้นทุน ปรับปรุงการดำเนินงานในส่วนต่างๆให้มีความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น ตลอดจนขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ในลักษณะของการร่วมทุน เพื่อขยายฐานรายได้และกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของ บริษัท พีพีเอส เอนเนอยี แอนด์ มารีน จำกัด ในสัดส่วน 67.77%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นเงินลงทุนจำนวนประมาณ 82 ล้านบาท เพื่อร่วมดำเนินธุรกิจวางท่อและจำหน่ายน้ำประปาและน้ำดิบในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จรับรู้รายได้ในปี 60 โดยบริษัทประมาณการรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท/ปี