"ครึ่งแรกทั้งรายได้และกำไรน่าจะได้ตามเป้า สบายๆ ปีนี้ก็เติบโตขึ้นต่อเนื่อง เป็นไปตามเป้า target โตปีละ 10% บวกลบทั้งรายได้และกำไรที่เราตั้งเป้าไว้ ไตรมาส 2/58 น่าจะโอเค"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
ปีที่แล้ว VIBHA มีกำไรสุทธิ 596.11 ล้านบาท และมีรายได้รวม 5 พันล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 1/58 มีรายได้ 1.37 พันล้านบาท และมีกำไร 178.5 ล้านบาท
นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะซื้อกิจการโรงพยาบาลเพื่อขยายงานต่อเนื่อง โดยยังไม่มองธุรกิจอื่น เพราะกิจการในมือที่มีอยู่ก็ค่อนข้างมากและต้องทำให้มีผลกำไร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการโรงพยาบาลในประเทศ ซึ่งคาดจะสรุปดีลซื้อได้ 1 แห่งภายในปีนี้ และยังอยู่ระหว่างการมองหาซื้อที่ดินบริเวณจ.ระยอง เพื่อเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ ซึ่งหากซื้อที่ดินได้ก็คาดว่าจะเปิดบริการได้ในราวปี 60 เป็นไปตามเป้าหมายที่จะเปิดโรงพยาบาลใหม่ปีละ 1 แห่ง
"กำลังดูหาซื้อที่ดินจังหวัดระยองอยู่ ตั้งใจว่าจะเปิดปี 60 เพราะกว่าจะออกแบบ สร้าง ซื้อที่ดินได้ อีก 2 ปี แต่ถ้าเร็วหน่อยก็จะไปซื้อกิจการที่สร้างอยู่แล้วซึ่งดูทั้ง 2 รูปแบบ"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือ 17-18 แห่ง แบ่งเป็นภาคเหนือ 6 แห่ง เช่น รพ.ลานนา ,รพ.เชียงใหม่ราม เป็นต้น ส่วนภาคกลางมี 8 แห่ง และภาคตะวันออก เช่น รพ.แหลมฉบัง รพ.วิภารามอมตะ ถ้ารวมโรงพยาบาลในเครือบมจ.เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์(CMR) ที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 83.75% ก็จะมีโรงพยาบาลในเครือ 20 แห่ง
ส่วนแผนการเปิดโรงพยาบาลใหม่ 1 แห่งในปีนี้คือ โรงพยาบาลวิภาราม จ.สมุทรสาคร คงต้องเลื่อนการเปิดให้บริการไปเป็นเดือนม.ค.-ก.พ.59 จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดในราวเดือนธ.ค.58 โดยจะเปิดให้บริการก่อนกว่า 100 เตียง มูลค่าลงทุนราว 800-1,000 ล้านบาท ก่อนจะค่อยๆขยับขึ้นเป็นขนาด 200 เตียงตามเป้าหมาย
"โรงพยาบาลวิภาราม จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งใจจะเปิดในเดือนธันวาคม แต่เลื่อนเป็นมกราคม 59 ไปเลย เพราะเดือนธันวาฯอาจฉุกละหุก ไปเปิดมกราคมเลย ก็ไม่ถือว่าเลื่อนมากแค่เดือนเดียว"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนแผนการลงทุนเปิดโรงพยาบาลในต่างประเทศนั้น บริษัทยังศึกษาการลงทุนในจีนและเมียนมาร์ โดยการเข้าไปลงทุนเห็นว่าควรจะต้องหาพันธมิตรท้องถิ่นก่อน ซึ่งก็มีการเจรจาอยู่หลายราย ซึ่งการหาพันธมิตรท้องถิ่นก็จะช่วยลดความเสี่ยงการลงทุน เช่น ในกรณีของจีนก็จะหาพันธมิตรท้องถิ่นให้ได้ก่อนแล้วนำโนฮาวเข้าไปดำเนินการ
สำหรับงบลงทุนในช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทได้เตรียมงบไว้ที่ระดับกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนตามแผนงาน ขณะที่การออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA-W2) ก่อนหน้านี้คาดว่าจะได้รับเงินจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์ดังกล่าวในช่วง 5 ปีนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท หรือปีละ 300 ล้านบาท ซึ่งจะใช้รองรับการเปิดโรงพยาบาลใหม่ปีละ 1 แห่งตามแผน
"แต่ละโรงที่จะไปขยายใน 5 ปีข้างหน้านี้ จะใช้เงินจากส่วนนี้ปีละ 300 กว่าล้านบาท และมีเงินกู้อีก ซึ่งแต่ละปีก็จะดูว่าแหล่งไหนต้นทุนถูกสุด คาดว่าจะได้ 1,500 ล้านบาทใน 5 ปี แพลนนิ่งไว้แล้วเรื่องเงินไม่ต้องเพิ่มทุนเลย"นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมี่แผนจะนำบริษัท ทิพยบดินทร์ จำกัด ซึ่งถือหุ้นอยู่ 50% เข้าจดทะเบีบนในตลาดหลักทรัพย์ฯในช่วงปลายปี 59 ถึงต้นปี 60 โดยบริษัท ทิพยบดินทร์ ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์และน้ำยาล้างไต ซึ่งการที่บริษัทได้เข้าไปถือหุ้นในปี 57 นั้นขณะนี้ก็ได้รับเงินปันผลมาแล้วทำให้สามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ปีแรก
นอกจากนี้บริษัทยังจะจ่ายเงินเพิ่มทุนในทิพยบดินทร์ในเดือนนี้ หลังบริษัทดังกล่าวจะเพิ่มทุนเป็น 100 ล้านบาทจากเดิม 30 ล้านบาทเพื่อนำเงินไปผลิตเวชภัณฑ์เพื่อขายให้กับบริษัทในเครือและนอกเครือ รวมถึงจะขยายโรงงานเพิ่มเติมด้วย
ส่วนโครงการ"เดอะ เลกาซี่ กอล์ฟ คลับ"ที่บริษัทมีการลงทุนผ่านบริษัทย่อยอยู่นั้น ยังอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อร่วมพัฒนาโครงการในรูปแบบใหม่ แต่ปัจจุบันโครงการก็มีกระแสเงินสดพอเลี้ยงตัวเองได้ ขณะที่โครงการมีขนาดพื้นที่ 420 ไร่ ซึ่งบริษัทก็พร้อมจะขายออกมีกำไรดี