ประเด็นความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)หลังส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ รอดูตัวเลขค้าปลีก ของสหรัฐ แถลงการณ์ของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส จับตาดูตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของจีนอาจกลับมาเป็นปัจจัยกดดัน ราคา น้ำมันเป็นอีกปัจจัยกดดันต่อกลุ่มพลังงานหลังล่าสุดอิหร่านได้บรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับประเทศมหาอำนาจ ทำให้ราคาน้ำมันอยู่ใน ทิศทางขาลง
ทิศทางพรุ่งนี้มองอยู่ในทิศทางที่ปรับตัวลง ให้แนวต้าน 968-972 จุด แนวรับ 957 ถัดไป 952 จุด ถ้ายังไม่ผ่าน 970 จุด มีโอกาสพักตัวอยู่ ดูจากปัจจัยตอนนี้ นอกจากกรีซแล้วยังเป็นความเสี่ยงทางลงอยู่ เน้นเก็งกำไรรอเปิดสถานะ short ถ้าดีดตัว กลับขึ้นมา
ด้าน บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ระบุว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,153.83- 1,158.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่ เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,750 บาท โดยราคาปรับตัว ลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,770 บาท
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมา บริเวณ 1,143 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขาย ทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,164 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป และควร ตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาด ทุนจะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 977.29 จุด ลดลง 2.99 จุด, -0.30%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 124,562 1,143,619 Total Futures 124,006 1,133,371 SET50 Index 62,027 254,776 Sector Index - - Single Stock 59,506 851,811 Precious Metal 2,044 20,498 -GF10 1,940 18,225 -GF50 104 2,273 Curency 397 5,853 Energy 32 433 Interest Rate - - Total Options 556 10,248 Call 254 4,130 Put 302 6,118 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -15,634 -1,532 +17,166 Options +58 +36 -94