กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา และ/หรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารแห่งทุนในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมุ่งหวังให้ผลตอบแทนของกองทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนี iBillionaire
สำหรับการคัดสรรหุ้นของดัชนี iBillionaire นั้นจะเริ่มต้นจากคัดเลือกนักลงทุนมหาเศรษฐี 10 รายที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ อาทิ มีพอร์ตการลงทุนที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ต่ำกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกามีประวัติการลงทุนมานานและเป็นนักลงทุนที่เน้นลงทุนระยะยาว (Buy and Hold) รวมทั้งเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในหุ้นมากกว่า 8 ปี เป็นต้น แล้วจึงทำการคัดเลือกหุ้น 30 อันดับแรกที่นักลงทุนมหาเศรษฐีดังกล่าวถือครองใน พอร์ตการลงทุนเหมือนกันโดยกระจายการลงทุนในหุ้นทั้ง 30 ตัวเฉลี่ยเท่าๆกันคือตัวละ 3.33% ของดัชนี
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ เป็นกองทุนแรกและกองทุนเดียวในประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้กับนักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตามแบบดัชนี iBillionaireซึ่งนักลงทุนทั่วไปไม่สามารถลงทุนในดัชนีนี้โดยตรงได้ ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการลงทุนในพอร์ตหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังมีมูลค่าพื้นฐานต่ำกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯโดยรวมกองทุนดังกล่าวจะทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินบาทไม่น้อยกว่าร้อยละ 90ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลปีละไม่เกิน 2 ครั้ง
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน กลุ่มจัดการลงทุนตราสารทุน เปิดเผยถึง มุมมองการลงทุนในดัชนี iBillionaire ว่าโดยภาพรวมยังมีมุมมองเชิงบวกกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ และปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 มูลค่าพื้นฐานปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่าตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วบริษัทฯจึงมีมุมมองเป็นกลาง (Neutral) ต่อตลาดหุ้น S&P 500 ในช่วงเวลานี้ และได้เลือกนำเสนอกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ บิลเลียนแนร์ เป็นทางเลือกเสริมสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยลักษณะการคัดเลือกหุ้นของดัชนี iBillionaire ที่เน้นหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว มีอัตราการขยายตัวของผลกำไร (EPS growth) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวม อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าหุ้นในดัชนี S&P 500 ในขณะที่ EPS growth ของดัชนี iBillionaire อยู่ที่ 26.0%สูงกว่าเกือบสองเท่าของดัชนี S&P 500 ที่ระดับ 15.6%% (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ 2 ก.ค. 2558)