สำหรับความร่วมมือที่มากกว่านี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจาแต่ยังไม่ได้บทสรุปที่ชัดเจน โดยคาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้ก็จะได้ข้อสรุปอย่างชัดเจนออกมาว่ารูปแบบในความร่วมมือจะเป็นอย่างไร โดยอาจจะให้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทย่อย ชื่อบริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมที่จะนำเรื่องเข้าประชุมบอร์ดในวันอังคาร ที่ 21 ก.ค.นี้
"KCM มีสาขาหลายสาขา และเตรียมขยายอีกมากในอีก 2-3 ปีต่อจากนี้ และการที่เราจะเอาโปรดักส์ประตูหน้าต่างของเราเข้าไปในโมเดิร์นเทรดเราก็ให้ทาง KCM เป็นเหมือนตัวแทนของเรา ส่วนเรื่องความความร่วมมือที่จะใกล้ชิดกับ KCM ให้มากกว่านี้นั้น เราก็คาดว่าอีกไม่นานคงอีก 1-2 เดือนนี้ก็น่าจะรู้เรื่อง เราก็ไม่ได้แค่ให้เค้ามาขายของให้เรา อาจจะเป็นการให้เค้าเข้ามาถือหุ้นในบริษัทย่อย แต่เรื่องนี้ก็ยังพูดอะไรมากไม่ได้เพราะต้องขอบอร์ดก่อน"นายสัญชัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้มีการเจรจากับพันธมิตรอีก 1 ราย ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/58 นี้ โดยอาจจะเป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงกับที่ทำกับ KCM ที่จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด
ทั้งนี้ บริษัทฯยังมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ บริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด ที่ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ 30 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ราว 100 ล้านบาท และตั้งเป้าปี 59 จะมีรายได้ 200 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตจะมาจากพันธมิตรทั้ง 2 รายที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขาย
"ปัจจุบันเราก็มีคุยอยู่กับพันธมิตรอีก 1 ราย และคงจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 3/58 นี้ และก็คงจะให้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทย่อย เช่นเดียวกับ KCM ซึ่งก็เน้นที่จะผลักดันรายได้ของบริษัทย่อยให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเตรียมผลักดันให้บริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในอีก 2 ปีข้างหน้า" นายสัญชัย กล่าว
นายสัญชัย กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 600 ล้านบาท หรือเติบโต 20% และกำไรจะเติบโตไปตามรายได้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และบริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีการปรับปรุงอาคารสำนักงานโรงพยาบาล และ ศูนย์สุขภาพต่างๆ และคาดว่าในไตรมาส 3 จะสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นได้
สำหรับทิศทางผลประกอบในช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจว่าดีกว่าครึ่งปีแรก ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร เนื่องจากตลาดที่เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างใกล้จบโครงการเป็นช่วงที่ต้องใช้สินค้าของบริษัทฯพอดี ส่วนตลาดออฟฟิศ ก็ยังมีการสั่งสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการปรับปรุงตึกออฟฟิศอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดประตู หน้าต่าง ที่มีสินค้าระดับไฮเอนด์ บริษัทฯก็ได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าสู่ลูกค้าทุกกลุ่มมากขึ้นด้วย
"เรายังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่เติบโต 20% เพราะการร่วมมือกับพันธมิตรทั้ง 2 รายนั้นคงจะเข้ามาชัดเจนในช่วงปลายปีหรือช่วงต้นปี 59 หลังจากนั้นเราก็ค่อยมาดูในเรื่องของรายได้อีกที" นายสัญชัย กล่าว