"ในปีนี้ ส่วนของอุตสาหกรรมนมยังคงมีการเติบโตอยู่ จากการที่ลูกค้ามีการขยายตลาดและเพิ่มกำลังการผลิต ในส่วนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ค่ายรถออกโมเดลใหม่ ส่งผลให้ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกรถยนต์มีการเติบโตสูงถึง 100% ทำให้มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้ในปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้ 2,300 ล้านบาท"นายวิวรรธน์ กล่าว
นายวิวรรธน์ กล่าวอีกว่า ยังอยู่ระหว่างการเจรจาลูกค้าใหม่อีก 1-2 รายในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงปลายปี 58 ขณะที่ออเดอร์จากลูกค้ารายเดิม 2 รายทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้มียอดขายจากผลิตภัณฑ์ใหม่ของลูกค้ารายเดิม อย่างไรก็ตามในปี 62 บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปัจจุบันที่ 10%
ส่วนธุรกิจโรงพ่นสีในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จ.ชลบุรี คาดว่าปีนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้แก่ บริษัทประมาณ 80-100 ล้านบาท และในปี 60 คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุน และหากมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ (Full Capacity) จะสร้างรายได้ 600-800 ล้านบาท
"อนาคตธุรกิจโรงพ่นสีจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้รวมของบริษัทให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และทำให้สัดส่วนรายได้ในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 20-25% ของรายได้รวม จากเดิมอยู่ที่ระดับ 11-15% ของรายได้รวม และคาดว่าธุรกิจโรงพ่นสีจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปี และมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ภายใน 5 -7 ปี"นายวิวรรธน์ กล่าว
นายวิวรรธน์ กล่าวว่า บริษัทมีจุดเด่นด้านคุณภาพการให้บริการ และการส่งมอบ ในด้านของบรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนยานยนต์ ด้วยประสิทธิภาพ และความสามารถในการบริหารต้นทุน มีหุ้นส่วนทางธุรกิจที่แข็งแกร่งระหว่างบริษัทกับลูกค้า (Partnership) โดยมีการบริหารจัดการด้านความเสี่ยง และโครงสร้างภายในที่สอดรับกับสภาวการณ์จากผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งมีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง