ตามที่มีผู้ร้องเรียนประธานกรรมการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป(NMG) กรณีห้ามผู้ถือหุ้นบางกลุ่มเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ทำให้ไม่สามารถใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนในการประชุมดังกล่าวได้ และ ก.ล.ต. ก็เห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการริดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถือหุ้นซึ่งกระทบกับความเชื่อมั่นของตลาดทุนโดยรวม ตลอดจนธรรมาภิบาลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดทุนในระดับสากล
อย่างไรก็ดี เนื่องจากการประชุมผู้ถือหุ้นและการทำหน้าที่กรรมการบริษัทเป็นบทบัญญัติที่อยู่ใน พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ ก.ล.ต.จึงได้ประสานงานกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการเรื่องนี้มีความสอดคล้องกัน
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต.ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการบริษัท การที่กรรมการบริษัทห้ามผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ข้อเท็จจริงจะดูเหมือนไม่สลับซับซ้อนมาก แต่ก็เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายมาตรา และคาบเกี่ยวกับงานทั้งของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและ ก.ล.ต.ที่ผ่านมา ก.ล.ต. จึงได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาโดยตลอด รวมทั้งได้พิจารณาข้อกฎหมายใน พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ อย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย"
ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้แจ้งผลการพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ แล้วว่า ประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่มีอำนาจที่จะไม่อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นซึ่งมีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและไม่ให้ออกเสียงลงคะแนนในการประชุม และการขัดขวางไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมและไม่ให้ผู้ถือหุ้นบางรายออกเสียงลงคะแนนในการประชุม เป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรา 33 มาตรา 102 และมาตรา 105 แห่ง พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ
โดยที่ มาตรา 89/7 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ระบุหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทไว้ด้วย ก.ล.ต.จึงได้นำข้อวินิจฉัยของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาพิจารณาประกอบกับมาตรา 89/7 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และจะให้ประธานกรรมการบริษัทชี้แจงตามขั้นตอนปกติต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีการไม่ปฏิบัติตามมาตราดังกล่าว จะต้องระวางโทษตามมาตรา 281/2 วรรคหนึ่ง ซึ่งมีโทษปรับไม่เกินจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับแต่ไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท
สำหรับประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับข้อร้องเรียนกรณีการเข้าครอบงำกิจการของ NMG ว่าเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการของ ก.ล.ต. เช่นกัน ซึ่งจะแจ้งให้ทราบเมื่อได้ข้อยุติ