(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งลงหลังยังไร้ปัจจัยใหม่-ติดตามการประกาศงบฯแบงก์ต่อ

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยปัจจัยนอกประเทศก็ให้ติดตามในวันพุธนี้ที่ทางกรีซจะมีการประชุมสภา เพื่อพิจารณากฏหมายการปฏิรูปสถาบันการเงินซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของทางสหภาพยุโรป(อียู) แต่คาดว่าจะน่าจะผ่านไปได้ ส่วนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ก็คงเป็นไปตามแผนที่วางไว้

พร้อมให้แนวรับ 1,460-1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,475-1,480 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(20 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,100.41 จุด เพิ่มขึ้น 13.96 จุด(+0.08%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,218.86 จุด เพิ่มขึ้น 8.72 จุด(+0.17%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,128.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.64 จุด(+0.08%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 112.39 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 52.21 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 22.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.48 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.30 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(20 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,466 จุด ลดลง 12.60 จุด (-0.85%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 45.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ก.ค.58
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(20 ก.ค.58) ปิดที่ 50.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 74 เซนต์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(20 ก.ค.58)ที่ 5.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 34.45/47 ยังอ่อนค่าต่อเนื่องจากวานนี้ มีลุ้นแตะ 34.50
• "ค่ายรถ"เตรียมชงรัฐปลดล็อกเกณฑ์รถคันแรกให้เปลี่ยนมือได้ก่อน 5 ปี หวังกระตุ้นตลาดรถใหม่ หลังยอดขายทรุด ต่อเนื่อง แม้อัดแคมเปญเดือด ด้าน สนช.รับลูก ระบุเตรียมผลักดันแก้เกณฑ์ แจงทำให้เงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจกว่าหมื่นล้าน ด้านสรรพสามิตแจงพร้อมถกเอกชน แต่ยังไม่เห็นข้อเสนอ
• พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การที่กระทรวงต่างประเทศได้แจ้งมาที่กระทรวงคมนาคมตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า อินโดนีเซียห้ามไม่ให้สายการบินของไทยที่มีเที่ยวบินประจำเพิ่มเที่ยวบินหรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นผลจากการที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)ตรวจพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย(SSC)เพียงแต่แจ้งล่าช้ากว่าประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ที่สั่งห้ามพร้อมๆ กันก่อนหน้านี้
• ตลาดหลักทรัพย์เตรียมหารือสมาชิกอาเซียน ยกเลิกการเชื่อมต่อตลาดหุ้น หลังการซื้อขายน้อย นักลงทุนมีช่องทางอื่นที่สะดวกกว่า ปัดตั้งองค์กรรับดูแลความเสี่ยงซื้อขายหุ้นเงินสกุลดอลลาร์
• นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เปิดเผยว่า บรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ หรือซูเปอร์โฮลดิ้ง จะมีสถานะเป็นนิติบุคคลภายใต้การกำกับของรัฐบาล แต่ไม่ใช่ส่วนราชการ มีทุนประเดิม 1,000 ล้านบาท กระทรวงการคลังถือหุ้น 100% และจะกำหนดไว้ไม่ให้มีการนำหุ้นออกขายไม่ว่ากรณีใดๆ เพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
• บสย.-ธพว.ลงนามเปิดโครงการสินเชื่อดอกต่ำ 4% ใส่กระสุนให้ เอสเอ็มอีช่วงเศรษฐกิจฝืด พร้อมเร่งขั้นตอนอนุมัติไม่เกิน 3 วัน หวังเพิ่มเป้าสินเชื่อแตะ 1 แสนล้าน ประเดิมเงินกู้ล็อตแรก ส.ค.นี้ หากไม่พอพร้อมเพิ่มวงเงิน

*หุ้นเด่นวันนี้

• SCC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 570 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q58 จะเติบโตสูง +31% yoy เป็น 1.12 หมื่นล้านบาท แรงหนุนสเปรดธุรกิจปิโตรเคมีทั้ง HDPE และ PP ที่ปรับตัวขึ้น ได้ประโยชน์ต้นทุนน้ำมันดิบปรับตัวลง และคงมุมมองเชิงบวกต่อผลงาน 2H58 เชื่อยอดขายปูนในประเทศเร่งตัวตามงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐฯ และธุรกิจปิโตรเคมียังสดใสจากราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวต่ำผลักดันให้กำไรสุทธิปี 58 โต +22.9% yoy เป็น 41,322 ล้านบาท และต่อเนื่อง +10.1% yoy ในปี 59 เป็น 45,494 ล้านบาท พร้อมคาดเงินปันผล 1H58 หุ้นละ 6.00 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.2%
• SCB(ฟินันเซีย ไซรัส)กำไรหลักแข็งแกร่งแม้ตั้งสำรองสูง โดยกำไร +0.5% Q-Q, -10% Y-Y ใกล้เคียงคาด แม้จะตั้งสำรองเพิ่มสูงขึ้นมาก +42% Q-Q, +59% Y-Y แต่กำไรหลักแข็งแกร่งมากโดยเฉพาะรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย การตั้งสำรองน่าจะสูงกว่าปกติในไตรมาสถัดไปทำให้แนวโน้มกำไรใน 2H15 ชะลอ ยังคงราคาเป้าหมาย 187 บาท
• TCAP(ฟินันเซีย ไซรัส)ราคาเป้าหมาย 40 บาท กำไรดีกว่าคาด +4.6% Q-Q, +12.8% Y-Y จากกำไรจากเงินลงทุนในตราสารหนี้และต้นทุนการเงินลดลง แม้ NPL ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 แต่ NPL Ratio สูงกว่ากลุ่มทำให้ยังต้องกันเงินสำรองสูงกว่าปกติต่อไป ความน่าสนใจอยู่ที่ PE ถูก 7.4 เท่า และคาด Dividend yield 5%
• EE(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 1.91 บาท คาดผลประกอบการจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปจากส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นขนาด 240 MW เป็นบริษัทที่มีเงินสดสูงและไม่มีหนี้ ทำให้มีความสามารถในการระดมทุนเพื่อรองรับการขยายการลงทุนในอนาคต