KTB เผย H1/58 กำไรโต 2.9% จากงวดปีก่อน,สำรองเพิ่ม 17.06% รับศก.ผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 22, 2015 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงไทย (KTB) เผยกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2/58 ที่ระดับ 8,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.88% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิจำนวน 16,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.90% จากระยะเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจหลักของธนาคารเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธนาคารตั้งสำรองรวมจำนวน 11,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.06% รองรับภาวะเศรษฐกิจผันผวน

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ KTB เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/58 เปรียบเทียบกับไตรมาส 2/57 ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรองและภาษีเงินได้จำนวน 17,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.37% และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 8,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.88% โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 20,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.49% จากไตรมาสเดียว กันของปีก่อน จากการขยายตัวของสินเชื่อ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 8,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับงวดครึ่งปีแรก ธนาคารมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 16,378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.90% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งธุรกิจหลักของธนาคารเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธนาคารได้กันสำรองเพิ่มเติมจำนวน 3,600 ล้านบาท จากการกันสำรองตามปกติไตรมาสละ 2,100 ล้านบาท ทำให้งวดครึ่งปีแรก ธนาคารตั้งสำรองรวมจำนวน 11,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.06% ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อรองรับความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,980,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 57 จำนวน 27,259 ล้านบาท คิดเป็น1.40% มียอดเงินฝากจำนวน 2,083,917 ล้านบาท ลดลง 67,351 ล้านบาท คิดเป็น 3.13% จากสิ้นปี 57 โดยลดลงจากการครบกำหนดของเงินฝากประจำเป็นหลัก ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 67,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,062 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17.50% จากสิ้นปี 57 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากลูกค้า SME ขนาดเล็ก และลูกค้ารายย่อย ซึ่งค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยทางเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกสินเชื่อด้อยคุณภาพมีจำนวนลดลง 506 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับปรุงกระบวนการภายในธนาคาร โดยเน้นเรื่อง การติดตามหนี้อย่างใกล้ชิด ส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์ของลูกค้ารายย่อยปรับตัวดีขึ้น

ธนาคารมีเงินกองทุนเท่ากับ 276,588 ล้านบาท หรือ 14.41% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง โดยเป็นกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 211,644 ล้านบาท ทั้งนี้ ในเดือนก.ค.58 ธนาคารประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิตามเกณฑ์ Basel III สกุลเงินริงกิตมาเลเซีย จำนวน 1,000 ล้านริงกิตมาเลเซีย ให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศมาเลเซียที่มีขนาดของการเสนอขายใหญ่ที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ