KTB บวก 2.98% โบรกฯเชียร์"ซื้อ"หลังกำไร Q2/58 ดีกว่าคาด,แนะจับตา NPL

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 22, 2015 10:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น KTB ราคาวิ่งขึ้น 2.98% มาอยู่ที่ 17.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 222.38 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.04 น. โดยเปิดตลาดที่ 17.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 17.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 17.00 บาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น ธนาคารกรุงไทย(KTB)หลังประกาศกำไร 2Q58 ที่ 8,449 ล้านบาท ดีขึ้น 7%QoQ และ 12%YoY และเป็นระดับที่ดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ 5.9 พันล้านบาทมาก แม้สำรองในไตรมาสนี้จะสูงขึ้นตามคาด แต่ NIM และรายได้ค่าธรรมเนียมดีขึ้นมาก ช่วยชดเชยปัจจัยลบได้หมด สำหรับแนวโน้ม NPL เพิ่มขึ้นแรง ซึ่งยังคงจับตาดูทิศทางในครึ่งปีหลังว่าการก่อตัวของ NPL ใหม่จะลดลงหรือไม่

สำหรับราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายกันที่ Forward PBV 0.9 เท่า ถือว่าสะท้อนปัจจัยลบไปมาก พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 21 บาท อิง PBV 1.2 เท่า

ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปี 58 ไว้ที่ 30,525 ล้านบาท แม้ว่ากำไรในไตรมาส 2 ที่ประกาศจะดีกว่าคาดมาก และกำไรครึ่งปีคิดเป็น 53% ของประมาณการทั้งปีแล้วก็ตาม แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ในครึ่งปีหลัง NPL อาจเพิ่มขึ้น และธนาคารอาจต้องตั้งสำรองในระดับสูงอีก เราจึงคิดสำรองทั้งปีไว้ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท คิดเป็น Credit Cost 94 bps ซึ่งจะคิดเป็นสำรองพิเศษสำหรับครึ่งปีหลังที่ราว 1 หมื่นล้านบาท

โดยในครึ่งปีหลังแม้สำรองจะยังสูงแต่ก็เป็นระดับที่ต่ำกว่าไตรมาส 2 แต่แรงหนุนจาก NIM และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอาจไม่เด่นเท่าในไตรมาส 2 เช่นกัน

ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุว่า แม้กำไรไตรมาส 2/58 ของKTB จะออกมาดีเกินคาด แต่ยังกังวลต่อสินเชื่อที่ชะลอตัวจากการเบิกจ่ายภาครัฐและการประมูลโครงการใหญ่ที่ถูกเลื่อนไปปีหน้า ขณะที่ NPL อาจยังกดดันกำไรจากการเพิ่ม Provision เราจึงปรับราคาเป้าหมายปี 58 ลงจาก 24.00 บาท เป็น 20.50 บาท อิง PBV 1.1 เท่า เนื่องจากราคาลงมามากจนมี Upside ถึง 22% จึงแนะนำ"ซื้อ"

KTB รายงานกำไรสุทธิ 2Q58 ที่ 8.4 พันล้านบาท +7%QoQ และ +1%YoY ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 7 พันล้านบาท หลักๆมาจาก 1) NIM ที่ขยับขึ้นสวนทางกับธนาคารอื่นจาก 2.85% เป็น 3.11% ซึ่งได้รับผลดีจากการ Consolidate งบของ KTC ตามมาตรฐานการบัญชีใหม่ซึ่งทำให้ NIM ดีขึ้นราว 30 bps จากระดับปกติ

2)ธนาคารได้ปรับเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากจาก 89% เป็น 95% ช่วยทำให้ cost of fund ต่ำลงโดยธนาคารมียอดเงินฝากลดลง -5%QoQ Interbank Borrowing ลดลง -6%QoQ และ การกู้ยืมอื่นๆลดลง -14%QoQ ในขณะที่ 3) ยอดสินเชื่อยังคงเติบโตได้น้อยที่ +1.3%QoQ และ +1.3%YTD เนื่องจากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐล่าช้าและเอกชนชะลอการลงทุน โดยธนาคารได้ปรับเป้าสินเชื่อปี 58 จาก 5-7% เป็น 3-5% ซึ่งเราคาดว่ายอดสินเชือของปี Company Profile 2558 จะโตได้ราว 3.6%

รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิหดตัวเมื่อเที่ยบกับ 1Q58 แต่เติบโตเมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการปริวรรตเงินตราที่เพิ่มขึ้น 737 ล้านบาท +63%YoY ย่อย ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มธุรกิจธนาคารกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 148 ล้านบาท +82%YoY จากการขายเงินลงทุนบางส่วน (รวมพาณิชย์ และกลุ่มธุรกิจหลักทรัพย์กำไรจากการขายหุ้น TNITY) และการขยายตัวของธุรกิจประกัน ซึ่งมาชดเชยรายได้ปันผลจากกองทุนวายุภักษ์ที่ลดลง จากกำไรที่เพิ่มขึ้นทำให้ Cost to Income Ratio ปรับตัวลงจาก 49% เป็น 41%

ขณะที่ NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คือ 2.41% ณ สิ้นปี 57, 2.62% ใน 1Q58 และ 2.96% ใน 2Q58 โดยเราคาด NPL อาจมิสิทธิเพิ่มขึ้นเกิน 3% ณ สิ้นปี 58 ทั้งนี้ KTB ได้เพิ่มหน่วยงานศึกษาปัญหาและดูแลลูกค้าในกลุ่มที่มีปัญหาอย่างใกล้ชิดมากขึ้น สำหรับค่าใช้จ่าย Provision ไตรมาสนี้อยู่ที่ 7.5 พันล้านบาทใกล้เคียงกับที่เราคาด Coverage Ratio เพิ่มขึ้นจาก 116% เป็น 125%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ