การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดของวันที่ 1,449.53 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,432.58 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 439 หลักทรัพย์ ลดลง 489 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 245 หลักทรัพย์
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)(MBKET)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากที่ช่วงเช้าปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามา มองว่ามาจากความคาดหวังการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ฝ่ายเศรษฐกิจที่อาจจะมัการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาเรียกความเชื่อมั่นด้วย และอาจส่งผลให้หุ้นฟื้นตัวขึ้น
หุ้นนำการฟื้นตัวในวันนี้มาจาก SCC และ KTB โดย KTB มาจากงบฯไตรมาส 2/58 ออกมาดีกว่าคาด และวันนี้ขึ้นมาโดดเด่นสุดในกลุ่มแบงก์ แต่การฟื้นตัวของตลาดยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากหุ้น PTT ยังคงปรับตัวลงแรงตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ดี ช่วงนี้เป็นช่วงการทยอยการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/58 ซึ่งก็ต้องติดตามดูต่อไป และนักลงทุนสามารถเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวได้ พร้อมแนะนำหุ้น TASCO, TIPCO, SCC ที่คาดว่างบฯไตรมาส 2/58 จะออกมาดี
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ต่างปรับตัวลง คาดว่าจะเป็น take profit เนื่องจากดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ปรับตัวลงด้วย และจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานของแต่ละตลาดในเอเชียต่างก็ปรับตัวลง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(23 ก.ค.)นายภาดล กล่าวว่า ดัชนีฯมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อไปยืนเหนือ 1,450 ได้ แต่ก็คงยังไปไหนได้ไม่ไกล เพราะต้องการรอความชัดเจนของการปรับ ครม.แต่เชื่อว่าแรงขายน่าจะเริ่มลดลง ส่วนงบฯกลุ่มแบงก์ที่ออกมาก็ไม่ได้แย่กว่าที่คาดไว้ พร้อมให้แนวรับ 1,430 จุด ส่วนแนวต้าน 1,460 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,429.77 ล้านบาท ปิดที่ 314.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,905.93 ล้านบาท ปิดที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,785.73 ล้านบาท ปิดที่ 2.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,732.45 ล้านบาท ปิดที่ 182.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,621.04 ล้านบาท ปิดที่ 5.15 บาท ลดลง 0.10 บาท